กรมการขนส่งทางบก เผยผลการจัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร เฉพาะเดือนสิงหาคม 2559 จัดเก็บภาษีรถได้ถึง 752 ล้านบาท ประชาชนยังนิยมใช้บริการชำระภาษีรถที่สำนักงานของกรมการขนส่งทางบกมากที่สุด พร้อมพัฒนาระบบการรับชำระภาษีรถประจำปีเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น
นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเลือกชำระภาษีรถประจำปีได้หลากหลายช่องทาง ปรากฏว่าเฉพาะเดือนสิงหาคม 2559 สามารถจัดเก็บภาษีรถในเขตกรุงเทพมหานครได้ทั้งสิ้น 752,178,988.75 บาท เป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถยนต์ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 5 ของกรมการขนส่งทางบกมากที่สุด จำนวน 493,930 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 553,899,193.92 บาท รองลงมาเป็นการใช้บริการรับชำระภาษีรถผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี” (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ จำนวน 73,611 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 130,527,002.84 บาท และการใช้บริการชำระภาษีรถที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์ – อาทิตย์ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี” (Shop Thru for Tax) มีผู้ใช้บริการ จำนวน 24,510 ราย จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 34,779,303.41 บาท และที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินที่ให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 10,787,586.14 บาท
ขณะที่การชำระภาษีรถผ่านเว็บไซต์ www.dlte-serv.in.th สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 12,090,784.98 บาท และการรับชำระภาษีรถผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 7,857,461 บาท โดยเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน และต้องไม่ค้างชำระภาษีรถเกินกว่า 1 ปี สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี ต้องมีใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) มาแสดงด้วย หากเป็นรถที่ติดตั้งแก็สต้องมีหนังสือรับรองการตรวจสอบและทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถคงเหลือระยะเวลาคุ้มครองไม่น้อยกว่า 3 เดือน
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกยังมุ่งมั่นพัฒนางานด้านบริการอย่างต่อเนื่อง จัดตั้ง “ศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center : GECC)” เพื่อเป็นจุดให้บริการข้อมูลข่าวสาร และให้คำแนะนำต่างๆ แก่ประชาชนที่เดินทางมาติดต่อราชการ นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยการนำระบบ QR Code มาเป็นช่องทางเข้าถึงแอพพลิเคชั่น DLT eForm ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นให้ข้อมูลการให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถ โดยสามารถดาวน์โหลดและพิมพ์แบบคำขอเพื่อนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ลดขั้นตอนการติดต่องาน ซึ่งเป็นการพัฒนางานด้านบริการ ที่ได้รับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ประจำปี 2559 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ประเภทการพัฒนาการบริการที่เป็นเลิศ ระดับดี ซึ่งที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้รับรางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ จาก ก.พ.ร. ต่อเนื่องมาถึง 14 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 - 2559
ข่าวเด่น