ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดบวกทดสอบด่าน 1,495-1,498 จุด ผลักดันด้วยหุ้นหลักอย่าง BANPU / ADVANC/ SCC/ PTT ก่อนที่เริ่มเกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้นในช่วงบ่าย แม้วาจะไม่มีปัจจัยใดเข้ามากดดันการลงทุนก็ตาม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 0.75 จุดมาอยู่ที่ 1,489.39 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 34,648 ล้านบาท
แม้ต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 มากถึง 1,035 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Idnex Futures เป็นวันที่ 6 มากถึง 9,625 สํญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 สูงถึง 20,711 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ต่อเนื่อง และหนาแน่นมากขึ้น
Window Dressing
เบื้องต้นการประชุมโอเปก ยังไม่ได้ข้อสรุป ยังติดที่กำลังการผลิตระหว่างซาอุฯ และ อิหร่าน
ครม.อนุมัติโครงการรถไฟรางคู่ช่วงมาบกะเบา-จิระ ส่วนที่เหลือจะมีการเร่งผลักดันให้มีการพิจารณา เพื่อเปิดประมูลภายในปีนี้
หุ้นใหม่ BCPG เข้าซื้อขายวันแรกในวันนี้ ราคา IPO 10 บาท
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 3)
SET INDEX ยังคงมีทิศทางแกว่งในกรอบระหว่าง 1,470-1,500 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเฉลี่ย 3.5-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน ตลอดสัปดาห์นี้ เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนในระยะสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้า SET50 Index Futures หนาแน่นขึ้น รวมถึงตลาดตราสารหนี้ ย่อมสะท้อนความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจ และค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 1-2 เดือนจากนี้ ทำให้นักลงทุนต่างชาตินำเงินมาลงทุนผ่าน 2 ตลาดนี้อย่างหนาแน่น คล้ายกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะปรับพอร์ตกลับสู่ตลาดหุ้นในท้ายที่สุด
อีกทั้งสัปดาห์นี้เป็น Window Dressing ทำให้ Downside risk ของ SET INDEX ในสัปดาห์นี้จำกัด แนวรับ 1,470-1,480 จุดจะทำงานได้อย่างแข็งแกร่งในมุมมองของเรา
สำหรับประเด็นการ Debate ระหว่าง Clinton และ Trump วานนี้ เรตติ้งของ Clinton ดีกว่า Trump เนื่องจากการควบคุมอารมณ์ที่ดีกว่า แม้ว่าภาพรวมเชิงนโยบายจะขาดความชัดเจนเมื่อเทียบกับนาย Trump ก็ตาม อย่างไรก็ตามยังมีการ Debate อีก 2 ครั้งในเดือนหน้า
กลยุทธ์การลงทุน “ยังคงเน้น Swing Trade ขึ้นแรงขาย และลงแรงซื้อ” ในหุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q59 เติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,480-1,500 จุด
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BCP : ราคาปิด 31.50 บาท ราคาเหมาะสม 39.00 บาท
a) ราคาหุ้นมี Sentiment บวก จากการ IPO และเข้าซื้อขายในตลท.ของบริษัทลูกคือ BCPG ในวันนี้ โดย BCP จะถือหุ้น 70% ใน BCPG หลัง IPO โดยทุก 0.10 บาทอของ BCPG ที่ขยับขึ้น จะเป็นบวกต่อ BCP 0.10 บาทเช่นกัน
b) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ 3Q59 จะเติบโต qoq จากค่าการกลั่นที่ยืนเหนือระดับ US7.00/barrel ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
c) Valuation ถูกซื้อขายที่ PER2559 เพียง 8.9 เท่า และ PBV2559 ที่ 1.1 เท่า และให้เงินปันผลในเกณฑ์ดีราว 5% ต่อปี
2. เก็งกำไร TPCH : ราคาปิด 18.60 บาท ราคาเหมาะสม 21.10 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ คือ ผลประกอบการ 3Q59 คาดว่าจะเติบโตทั้ง yoy & qoq และทำระดับสูงสุดใหม่ จากการรับรู้รายได้ขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 4 คือ มหาชัย กรีน พาวเวอร์แบบเต็มไตรมาส และการเริ่ม COD โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่พัทลุงจำนวน 9.2MW
b) และกำไร 4Q59 มีโอกาสเติบโตทั้ง yoy & qoq และทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากการเริ่ม COD ของโรงไฟฟ้าที่สตูลจำนวน 9.2MW และผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2559 เติบโตสูงถึง +550% yoy เป็น 302 ล้านบาท
c) ทิศทางกำไรปี 2560 คาดว่าจะเติบโตอีก +185% yoy เป็น 863 ล้านบาทจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าทั้ง 6 โรงอย่างเต็มปี นอกจากนั้น ยังมีโรงไฟฟ้าที่จะ COD เพิ่มเติมอีกในปี 2560 จำนวน 23 MW ที่ จ.ปัตตานี
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$161 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$142 ล้าน
ทั้งนี้ต่างชาติขายแทบทุกตลาด ยกเว้น KOSPI
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเป็น Long สุทธิ และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้หนาแน่นขึ้น
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 1,035 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 2,203 ล้านบาทเท่านั้น และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 133,562 ล้านบาท
แต่ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 6 มากถึง 9,625 สัญญา รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 32,631 สัญญา คาดว่าจะเป็นเร่งเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง กดดัน S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 1.68 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 5.67 จุด ทำให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิมากขึ้นเป็น 16,323 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้ คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 สูงถึง 20,711 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 50,853 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรไทยทรงตัวต่อเนื่องก็ตาม ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเพียง 0.02bps จากวันก่อนหน้าลดลง 0.33bps ปิดที่ 2.155%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 652 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 993 ล้านบาท และ SBL กระจายตัว 58 ตัว จากวันก่อนหน้า 75 ตัว
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทิ เน้น SCC / ไฟแนนซ์ เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 554 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 842 ล้านบาท โดย NVDR กลับมาเน้นสะสม SCC / กลุ่มไฟแนนซ์ / ค้าปลีก และลดน้ำหนักเล็กน้อย นำโดยกลุ่มโรงพยาบาล 84 ล้านบาท ICT 69 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวก
- ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แย่กว่า Bloomberg consensus คาดที่ +0.1% mom แต่ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.1% mom
- ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น เดือนก.ย. เท่ากับ 51.9 จุด ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 50.9 จุด แต่คำสั่งซื้อใหม่ และ Backlogs เติบโตในระดับต่ำในรอบหลายเดือน การจ้างงานก็ชะลอตัวเช่นกัน
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนก.ย. เท่ากับ 104.1 จุด ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 98.8 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 101.8 จุด เนื่องจากตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นมาก
- ดัชนี Richmond Fed ภาคการผลิต เดือนก.ย. เท่ากับ -8 จุด ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า -11 จุด เป็นเดือนที่ 5 ที่ดัชนีดังกล่าวติดลบ คำสั่งซื้อใหม่ยังคงติดลบแต่ติดลบในอัตราที่ชะลอตัว
รมว.คลัง สหรัฐฯ ประเมินไม่มีเซอร์ไพร์สจากเฟดที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่: รมว.คลัง ประเมินว่าประเทศเกิดใหม่หลักน่าจะสามารถประเมินทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เพราะเฟดมีการสื่อสารที่ชัดเจน
ยุโรป
WTO ปรับลดคาดการณ์การค้าระหว่างประเทศปีนี้ลงเหลือโต 1.7%: จากประมาณการเดือนเม.ย. ที่ 2.8% และเป็นการส่งสัญญาณครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่การค้าระหว่างประเทศมีการเติบโตที่ต่ำ และเป็นการส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลในแต่ละประเทศจะต้องเพิ่มมาตรการในการปกป้องอุตฯ ของตนเอง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก จึงต้องผลักดันให้เกิดความต้องการภายในประเทศให้มากขึ้น
สกอตแลนด์ต้องการความชัดเจนต่อการ Brexit: First Minister สกอตแลนด์ กล่าวว่า สกอตแลนด์ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลอังกฤษที่จะเดินหน้าสู่การออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียู และส่งสัญญาณระมัดระวังต่อผลกระทบต่อเศรษฐกิจ “Hard Brexit” คือ Brexit โดยที่การเจรจาต่อรองต่างๆ จะไม่เกิดประโยชน์ต่ออังกฤษ จำกัดต่อการเข้าถึงตลาดอียู รวมถึงความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกในกลุ่มอียู หากรัฐบาลเสนอจำกัดการรับผู้อพยพจากอียู
เศรษฐกิจที่ไม่สมดุลย์กลายเป็นความเสี่ยงต่ออียู: ประธาน ECB ส่งสัญญาณข้อจำกัดของนโยบายการเงินที่ใช้ทั้งอัตราดอกเบี้ยต่ำ และ QE ดังนั้นรัฐบาลควรกำหนดกรอบการทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความเสี่ยงเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลย์ เพราะความเสี่ยงนี้อาจนำไปสู่การแตกแยกของอียู
จีน
การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำหนดเดือนหน้า: วันที่ 24-27 ต.ค. โดยจะมุ่งเน้นการหารือถึงวินัยของพรรค และการกำกับดูแล เพื่อที่จะตอบโต้กับการคอร์รัปชั่น ถือเป็นการประชุมพรรคประจำปีก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ครบรอบ 5 ปีในปี 2560
กำไรจากภาคอุตฯ เพิ่มขึ้นสุงสุดในรอบ 3 ปี: กำไรของเอกชนในภาคอุตฯ เพิ่มขึ้น 19.5% yoy เป็น 5.348 แสนล้านหยวน เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2556 โดยกำไรจากภาคการผลิตเหล็ก และโรงกลั่น เพิ่มขึ้นเด่น ซึ่งได้อานิสงค์เดียวกับการเร่งลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ
เอเชียแปซิฟิก
การประชุมกลุ่มโอเปกยังไม่ได้ข้อสรุป: ประเด็นล่าสุด ซาอุฯ และ อิหร่าน มีเวลา 2 เดือนในการปรับสายการผลิตที่เกินโควต้า 600,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งมากกว่าผลิตของเอกวาดอร์ เพื่อให้ข้อตกลงดังกล่าวใช้ในการควบคุมไม่ให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ผลิตมากขึ้น นำไปสู่การ Oversupply ในตลาดน้ำมันมากขึ้น สิ่งจำเป็น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและ
ไทย
ครม.อนุมัติโครงการรถไฟรางคู่ช่วงมาบกะเบา – จิระ: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีมติอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอมา ในวงเงิน 29,853 ล้านบาท ระยะทาง 132 กม. โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2559-2563 นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม เล็งชงรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทางเข้าครม.เพื่อผลักดันให้เปิดการประมูลภายในปีนี้
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น