ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งในกรอบที่แคบมาก 1,490 จุด +/- เกือบตลอดชั่วโมงการซื้อขาย แต่กลับมาเกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้น ภายใต้มูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ทำให้ SET INDEX ย่อตัวลงทดสอบแนว 1,480 จุด และปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 9.81 จุด มาอยู่ที่ 1,479.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,659 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 767 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 7 อีก 3,027 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 อีก 6,596 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
โอเปกบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตเหลือ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ยังไม่มีรายละเอียด
Window Dressing
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 4)
ทิศทางการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในวันนี้เชื่อว่าจะเกิด Technical Rebound บวกกับโอกาสที่จะมีเม็ดเงินจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศเข้ามาทำ Window Dressing แต่แนวต้าน 1,490-1,495 จุด ยังไม่น่าจะผ่านได้
มูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง วานนี้ลดลงเหลือเพียง 3.2 หมื่นล้านบาท หากไม่รวมมูลค่าการซื้อขายหุ้น BCPG ที่ 6.0 พันล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศลดลงต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวม SET INDEX แกว่งผันผวนระหว่างชั่วโมงการซื้อขายได้ในกรอบกว้าง
การประชุมโอเปกสิ้นสุดลงพร้อมกับกำหนดกรอบการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง แต่ยังขาดรายละเอียดถึงจำนวนโควต้าในแต่ละประเทศสมาชิก ทั้งนี้อิหร่านยืนยันที่จะไม่มีการลดกำลังการผลิตในส่วนของตน เราประเมินว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียง Sentiment บวกช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะต้องไปรอการประชุมปลายเดือนพ.ย.เพื่อพิจารณารายละเอียดการลดโควต้าในแต่ละสมาชิก ซึ่งก็อาจไม่ได้ข้อสรุปในเวลานั้นก็ได้เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน “คงเน้น Swing Trade ขึ้นแรงขาย และลงแรงซื้อ” ในหุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 3Q59 เติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq ประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,475-1,490 จุด
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร PTT : ราคาปิด 329.00 บาท ราคาเหมาะสม 358.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะเป็นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ หลังการประชุม OPEC วานนี้มีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันจาก 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ปรับตัวขึ้นเกือบ 6% เมื่อคืนนี้
b) เชื่อว่า PTT จะเป็นหุ้นหลักที่ตอบรับเชิงบวกโดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นส่งผลให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ารวมทั้งแรงซื้อของกองทุนในประเทศ
c) คาดกำไรจากดำเนินงานปกติ 3Q59 จะขยับขึ้น qoq จากแรงหนุนของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี และ Valuation ไม่แพงซื้อขายระดับ PER2560 ที่ 10.2 เท่า พร้อมทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.5% ต่อปี
2. เก็งกำไร BJC : ราคาปิด 42.00 บาท ราคาเหมาะสม 52.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นที่ผลประกอบการ 3Q59 เด่น จะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดในเดือน ต.ค. เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Earning Preview ส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรหุ้นรายตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดที่ขาดปัจจัยบวกหนุนนำ
b) คาดกำไรสุทธิ 3Q59 จะเติบโตสูง yoy และ qoq เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 1 พันล้านบาท จากการชำระคืนหนี้สกุลยูโร ขณะที่ Norm Profit คาดว่าจะเติบโต yoy และ qoq เช่นกัน เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจของ BIGC ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากการคืนหนี้ระหว่างไตรมาส
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +85.6% yoy เป็น 6,589 ล้านบาท ขยายตัวสูงสุดในกลุ่มค้าปลีก และ Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ PBV2560 เพียง 1.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 3.8 เท่า และหุ้นหลักในกลุ่ม เช่น CPALL 9.9 เท่า, HMPRO 7.1 เท่า และ GLOBAL 3.0 เท่า
Strategist Team
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง US$240 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$161 ล้าน
ทั้งนี้ต่างชาติขายแทบทุกตลาด ยกเว้น ตลาดหุ้นไทย
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ แม้ว่าจะเพียง 767 ล้านบาทก็ตาม เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 2,203 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับเล็กน้อยเป็น 134,329 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 7 ลดลงเหลือ 3,027 สัญญา รวม 7 วันทำการ Long สุทธิ 35,658 สัญญา คาดว่าจะเป็นเร่งเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง ส่งผลให้ S50Z16 ปิดสูงกว่า SET50 Index มากถึง 2.70 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Discount เพียง 1.68 จุด ทำให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิมากขึ้นเป็น 19,350 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้ คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 อีก 6,596 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิ 57,449 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยขยับขึ้นอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงมากถึง 2.13bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.02bps ปิดที่ 2.134%
Short-Selling วานนี้
เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 856 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 652 ล้านบาท และ SBL กระจายตัว 74 ตัว จากวันก่อนหน้า 58 ตัว
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่เป็นเพียงการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลักเท่านั้น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเพียง 48 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 554 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลักเท่านั้น ซื้อสุทธิสูงสุดกลุ่มพลังงาน 287 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก 160 ล้านบาท แต่ขายสุทธิสูงสุดในกลุ่มปิโตรเคมี 224 ล้านบาท กลุ่ม ICT 190 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง 124 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด: เดือนส.ค.ทรงตัว mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ -1.9% mom แต่แย่กว่าเดือนก่อนหน้า+3.6% mom หากไม่รวมรายการขนส่ง ยอดคำสั่งซื้อหดตัว 0.4% mom ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด -0.5% mom ทั้งนี้คำสั่งซื้อยานยนต์, สินค้าด้านการทหาร แข็งแกร่ง
สภาคองเกรสปฎิเสธการคัดค้านของประธานาธิบดีโอบามาต่อกรณีการฟ้องร้องซาอุฯ: ต่อกรณีที่ผลการพิสูจน์พบว่าซาอุฯ เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 911 โดยสภาล่างโหวต 348-77 สนับสนุนการฟ้องร้อ และสภาสูงโหวตด้วยเสียง 97-1 เท่านั้น ดังนั้นการออกกฎหมาย Justic Against Sponsors of Terrorism Act จะออกภายใน 4 เดือนจากนี้
เฟดเตรียมทำ Stress Test ด้วยเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป: การเข้าให้ความเห็นของประธานเฟดต่อ House of Representatives Financial Services Committee ประจำ 6 เดือน ซึ่งประธานเฟดให้รายละเอียดต่อการเปลี่ยนแปลง Stress Test ที่จะใช้ทดสอบสถาบันการเงิน โดยจะให้ความสำคัญกับ Risk-sensitive มากขึ้น และความเสี่ยงเฉพาะของสถาบันการเงินที่จะมีผลต่อฐานทุนสำหรับ 8 ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้งนี้เฟดยังได้เข้าไปตรวจสอบสถาบันการเงินขนาดใหญ่หลังเกิดกรณือื้อฉาว Wells Fargo
ยุโรป
นายกฯ กรีซเชื่อว่าจะมีข่าวดีเกี่ยวกับหนี้ภายในสิ้นปีนี้: นายกฯ Tripras คาดว่าจะได้ผลเชิงบวกหลังการหารือเกี่ยวกับการผ่อนคลายเงื่อนไขการช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ภายในปีนี้ หลังรายได้รับของรัฐบาลปรับตัวดีขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจที่จะกลับมาเติบโตได้ใน 3Q59 และอาจแตะ 3% ในปี 2560
อังกฤษเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: เลขาธิการด้านธุรกิจ, พลังงาน และอุตฯ นาย Clark ประเมินว่าเศรษฐกิจอังกฤษจำเป็นจะต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และปรับปรุงด้านการศึกษา เพื่อให้เกิดเสถียรภาพทางด้านธุรกิจ หลังอังกฤษต้องเดินหน้าสู่ Brexit
รองผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม: นาย Shafik กล่าวถึงนโยบายการเงินยังมีโอกาสที่จะผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจอังกฤษหลัง Brexit สามารถทนแรงเสียดทานได้ และไม่ให้เกิด Panic จังหวะของการเพิ่มมาตรการขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่จะออกมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ หรือ 2-3 เดือนข้างหน้า
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในฝรั่งเศสทรงตัว: เดือนส.ค.เท่ากับ 97.0 จุด สอดคล้องกับ Reuters Poll แนวโน้มผู้บริโภคเชื่อว่ามาตรการเป็นอยู่จะดขึ้นเล็กน้อยในเดือนนี้ แต่ยังกังวลกับภาวะการว่างงานที่ผ่อนคลายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ภาคเอกชนปรับประมาณการเศรษฐกิจเยอรมันเพิ่มขึ้น: สถาบันด้านเศรษฐกิจของภาคเอกชนหลายแห่ง ได้ปรับประมาณการ GDP ของเยอรมันปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.9% จากก่อนหน้าที่ประเมิน 1.6% แต่ปรับประมาณการเศรษฐกิจปีหน้าลดลงจาก 1.5% เป็น 1.4% ล่าสุด
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
รมว.คลังเกาหลีใต้ คาดส่งออกจะยังไม่ฟื้นตัว: โดยคาดว่าจะหดตัวลงต่อเนื่อง จากการนัดหยุดงานในหลายอุตฯ ขณะที่ภาคการบริโภคภายในประเทศยังคงหดตัว ผลผลิตภาคอุตฯ และการส่งออกจะชะลอตัวต่อเนื่อง สัญญาณการฟื้นตัวยังคงอ่อนแอ แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค.จะเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 19 เดือน แต่การฟื้นตัวดังกล่าวยังไม่มีเสถียรภาพ
กลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตครั้งแรกในรอบ 8 ปี: ข้อตกลงลดกำลังการผลิตเป็น 32.5-33.0 บาร์เรล/วัน ทั้งนี้สมาชิกบางประเทศจะต้องลดกำลังการผลิต แต่อิหร่านยังไม่ต้องคงกำลังการผลิต ซึ่งรายละเอียดของการลดกำลังการผลิตยังต้องมีการหารือ เพราะยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายการลดกำลังการผลิตในแต่ละประเทศ จนกว่าการประชุมครั้งหน้าในปลายเดือนพ.ย
ไทย
รองนายกฯ มั่นใจปีนี้เศรษฐกิจโต 3.2%: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความมั่นใจว่า ภายในสิ้นปีนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจขยายตัวประมาณ 3.2% จึงไม่จำเป็นต้องออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลเหลือเวลาบริหารงานเพียง 1 ปีเท่านั้น จึงต้องปรับองค์กรให้เป็น 4.0 ส่วนการส่งออกของไทย กำลังเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ต้องเร่งปฏิรูปอุตสาหกรรม เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 29 ก.ย. 2559
ข่าวเด่น