กรมชลประทาน เริ่มทยอยเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อรองรับฝนตกหนักอีกระลอก เตือนพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (29 ก.ย. 59) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 1,790 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแม่น้ำสะแกกรัง 167 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทาน ยังคงระบายน้ำตอนบนลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.)ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 2 ต.ค. 59 ความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนตัวขึ้นไปบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด (29 ก.ย. 59) มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามที่กรมชลประทาน ได้ประเมินว่ามีโอกาสที่เขื่อนจะมีปริมาณน้ำเต็มอ่างฯได้ ในวันที่ 8 ต.ค. 59 นั้น จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำจากฝนที่จะตกลงมาอีก โดยจะปรับเพิ่มการระบายจากเดิมวันละ 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน(29 ก.ย. 59)มีการระบายน้ำวันละ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะทยอยเพิ่มเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในวันนี้ ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลมารวมกับปริมาณน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณเหนือเขื่อนพระรามหก กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันนี้(29 ก.ย. 59) มีน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก 433 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนพระรามหกลงมาไปจนถึงจุดบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1 – 1.50 เมตร
ส่วนในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง กรมชลประทาน ได้ใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยย่นระยะทางการไหลของน้ำจาก 18 กิโลเมตร เหลือเพียง 600 เมตร ทำให้สามารถระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยได้เร็วมากขึ้นในช่วงที่น้ำลง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 59 เป็นต้นมา มีการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ไปแล้วทั้งสิ้น 82.19 ล้านลูกบาศก์เมตร
อนึ่ง กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสุพรรณบุรี รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก นอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไปแล้ว
ข่าวเด่น