พาณิชย์เพิ่มช่องทางการจำหน่ายลองกองจากแหล่งผลิตภาคใต้มุ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มสูงขึ้น
กระทรวงพาณิชย์เชื่อมโยงผลผลิตลองกองจากแหล่งผลิตชายแดนภาคใต้ กระจายสู่ตลาดปลายทาง แล้ว 228.536 ตัน พร้อมเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง มุ่งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเพิ่มสูงขึ้นจากการกระจายผลผลิตผ่านช่องทางการจำหน่ายนอกพื้นที่
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการบริหารจัดการผลไม้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงก่อนผลผลิตออกสู่ตลาดในปี 2559 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในหารือเกษตรกรและผู้ประกอบการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่ง โดยการกระจายผลผลิต เชื่อมโยงตลาดไปยังจังหวัดปลายทาง ห้างค้าปลีก ศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน Farm Outlet และด่านชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีเป้าหมายรวม 1,500 ตัน มูลค่า การจำหน่าย รวมประมาณ 60,000 - 61,000 ล้านบาท ทั้งจัดงานเพื่อประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการบริโภคผลไม้ และส่งเสริมให้มีการขยายตลาดผลไม้สดและแปรรูปไปยังตลาดต่างประเทศ
ขณะนี้เป็นช่วงการผลิตผลไม้ภาคใต้และปริมาณที่ออกสู่ตลาดแล้ว ประกอบด้วย ทุเรียน ร้อยละ 78 เงาะ ร้อยละ 80 มังคุด ร้อยละ 75 และลองกอง ร้อยละ 70 กระทรวงพาณิชย์จึงได้ดำเนินการตามแผนดังกล่าว โดยเชื่อมโยงผลผลิตลองกองจากแหล่งผลิตชายแดนภาคใต้ (ยะลา สตูล นราธิวาส สงขลา และปัตตานี) กระจายสู่ตลาดปลายทาง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานเชื่อมโยงนำผลผลิตมาจำหน่ายแล้ว ณ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี และห้างเดอะฟิล สุขุมวิท 54 และจังหวัดต่างๆ ปริมาณรวม 228.536 ตัน มูลค่าการจำหน่ายรวม 9,371,917 บาท และได้ จัดงานบริโภคผลไม้ร่วมกับห้างสรรพสินค้าจังซีลอน จังหวัดภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 25 -27 กันยายน 2559 โดย ให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ นำผลไม้มาแสดงและจำหน่ายกับผู้บริโภคโดยตรง รวมทั้ง ยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายในงานต่างๆ ที่กรมการค้าภายในจัดขึ้น อาทิ งาน “ตลาดต้องชม Expo 2016” ระหว่างวันที่ 27 - 30 กันยายน 2559 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ งาน “มหกรรมธงฟ้าเพื่อแรงงาน” (Thongfah Factory Fair) ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 4 ตุลาคม 2559 ณ บริเวณสนามหน้านิคมอุตสาหกรรมสินสาคร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร อีกด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 2559 หากยังมีผลผลิตเหลืออยู่ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตั้งจุดจำหน่ายเพิ่มเติมที่สถานีรถไฟหัวลำโพง และศูนย์จำหน่ายและแสดงสินค้าเมืองทองธานี ทั้งนี้ การกระจายผลผลิตผ่านช่องทางการจำหน่ายต่างๆ ที่มีความต้องการทั่วประเทศจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น
ข่าวเด่น