กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. รายงานผลการรับสมัครสมาชิกวัยใกล้เกษียณอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุ หลังครบกำหนดระยะเวลาตามพระราชบัญญัติการให้สิทธิแก่ผู้สมัครสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติบางกรณีฯ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 72,000 ราย นับจากต้นเดือนกันยายนจนถึงวันที่ 25 กันยายน 2559 ยอดรวมสมาชิกทะลุ 512,000 ราย คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 16.6
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุน การออมแห่งชาติ หรือ กอช. กล่าวว่า หลังจากที่พระราชบัญญัติการให้สิทธิแก่ผู้สมัครเป็นสมาชิกกองทุน การออมแห่งชาติบางกรณีฯ ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558 และให้มีผลภายใน 1 ปีนับจากวันที่พระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้ (สิ้นสุดวันที่ 25 กันยายน 2559) หลังจากนั้นเป็นต้นมา กอช. ได้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลสิทธิประโยชน์ของประชาชนตามข้อกำหนดเงื่อนไขของกฎหมายฉบับดังกล่าว ผ่านสื่อมวลชนและช่องทางการสื่อสารต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคม มาตรา 40 (3) ที่ยกเลิกดำเนินการ สามารถแจ้งโอนย้ายมาเป็นสมาชิก กอช. ได้ ซึ่งหมดเขตให้แจ้งความประสงค์ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ต่อเนื่อง มาจนถึงการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางให้ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สมัครเป็นสมาชิก กอช. แล้วได้รับสิทธิออม 10 ปี ซึ่งหมดเขตรับสมัครตามเงื่อนไขนี้ไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2559 โดยจากรายงานผลการรับสมัครสมาชิก นับจากต้นเดือนกันยายนจนถึงวันที่ 25 กันยายน 2559 กองทุนมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 72,185 ราย จำนวนเงินสะสมเพิ่มขึ้น 111.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของจำนวนสมาชิก ร้อยละ 16.6 นับว่าเป็นยอดการสมัครสมาชิกเพียงเดือนเดียวที่ทำให้กองทุนมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น ตัวเลขที่น่าพอใจ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ ยังได้รับรายงานผลตอบรับจากประชาชนที่ใช้บริการสมัครสมาชิก กอช. อย่างเนืองแน่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่ได้รับนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการบริหารงานกองทุนและการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของผู้เป็นสมาชิกได้ต่อไปในอนาคต
นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของจำนวนสมาชิกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเติบโตในอัตราที่ก้าวกระโดดจากค่าเฉลี่ยปกติย้อนหลัง 8 เดือนที่กองทุนมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเดือนละ 6,000 รายโดยประมาณ ทั้งนี้ สมาชิกที่สมัครเพิ่มในเดือนกันยายนนี้ มีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจำนวน 53,360 ราย อายุ 50-60 ปี จำนวน 13,216 ราย รวมจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นในเดือนกันยายนซึ่งเป็นผู้มีสิทธิตามพระราชบัญญัติการให้สิทธิฯ ทั้งสิ้น 66,576 ราย คิดเป็นร้อยละ 92 ของจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด จึงทำให้กองทุนมีสมาชิกในกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46 เป็นร้อยละ 53
ซึ่งหลังจากที่ กอช. ทำการประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นในช่วงโค้งสุดท้ายตั้งแต่เดือนสิงหาคม ต่อเนื่องจนถึงกำหนดหมดเขตรับสมัครผู้สูงอายุเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2559 ในทุกช่องทางการสื่อสาร ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนการผนึกกำลังความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสารไปยังประชาชน อาทิ ธนาคารหน่วยรับสมัครทั้ง 3 แห่ง สำนักงานคลังเขตและคลังจังหวัดทั่วประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และที่สำคัญคือรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนเต็มที่ จึงทำให้การประชาสัมพันธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด ในแต่ละวันมีประชาชนให้ความสนใจสอบถามเข้ามาที่สายด่วนเงินออม กอช. และทาง facebook, Line@ ของกองทุนเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ผู้สูงอายุและผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ แต่รวมถึงผู้ที่อายุยังน้อยก็สนใจติดตามข่าวสาร และสอบถามถึงสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก กอช. มี บางรายเข้าใจผิดว่าหมดเขตสมัครสมาชิกพร้อมกันกับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งหลังจากนี้ไป กอช. จะเร่งเดินหน้าประชาสัมพันธ์การรับสมัครสมาชิก อายุ 15-60 ปี ที่ยังคงเปิดรับสมัครทุกวันต่อเนื่องไป รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการบริการให้ประชาชนและสมาชิกได้รับความสะดวกในการออมเงินกับ กอช. มากขึ้นต่อไป.
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนการออมแห่งชาติได้ที่ กอช. สายด่วนเงินออม 02-017-0789 ในวันและเวลาทำการ และติดต่อสมัครสมาชิกได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ... เกษียณสุขใจ มีบำนาญใช้ กับ กอช. www.nsf.or.th
ข่าวเด่น