(29 ก.ย. 59) ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตประเวศ ดร.ผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการประชุมการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 1/2559 เพื่อเตรียมความพร้อมรับสภาพปัญหาน้ำท่วมในจุดเสี่ยงของแต่ละกลุ่มเขต พร้อมวางแผนการเตือนภัย เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ ลำคลองของแต่ละเขต เพื่อให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่เข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ต่อจากนั้นเวลา (14.00 น.) รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่สำรวจปริมาณน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณประตูระบายน้ำลาดกระบัง พร้อมทั้งมอบเวชภัณฑ์ให้แก่ประชาชนในชุมชนประชาร่วมใจ เขตลาดกระบัง โดยมีนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหาร จากสำนักและเขต ร่วมประชุม
สืบเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ในช่วงวันที่ 1–4 ต.ค.59 จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งจะทำให้บริเวณภาคกลางยังคงมีฝนตกโดยทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในคลองสายหลักหลายแห่งอยู่ในภาวะวิกฤต น้ำใกล้ล้นตลิ่ง เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักต่อเนื่อง หากมีฝนตกลงมาเพิ่มจะทำให้น้ำล้นตลิ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้ เช่น คลองเปรมประชากร ช่วงพื้นที่เขตหลักสี่ ดอนเมือง คลองแสนแสบช่วงพื้นที่เขตหนองจอก คลองสามวา มีนบุรี คลองประเวศบุรีรมย์ช่วงพื้นที่เขตลาดกระบัง คลองบางนา ช่วงพื้นที่เขตบางนา ประเวศ และคลองลาดพร้าว ช่วงพื้นที่เขตสายไหม บางเขนและลาดพร้าว
รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งส่วนสำนักต่างๆ และสำนักงานเขตต่างๆ ทั้ง 50 เขต เพื่อทำความเข้าใจในการปฏิบัติงานให้ตรงกัน รับรู้ถึงเรื่องสถานการณ์ ทั้งเรื่องของปริมาณน้ำฝนที่จะตก ซึ่งเป็นการคาดคะเนของกรมอุตุฯ โดยเขตใดที่อาจได้รับผลกระทบมาก ก็ได้ให้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องสูบน้ำ กระสอบทรายกั้นน้ำ ทั้งเรื่องของการประชาสัมพันธ์ชี้แจงพี่น้องประชาชนในเรื่องการเปิดปิดประตูระบายน้ำ ให้ประชาชนเข้าใจให้ตรงกัน ทั้งนี้เมื่อไรก็ตามที่มีปริมาณน้ำฝนเกิน 60 มม. ซึ่งที่ผ่านมาเฉพาะเดือน ก.ย. มีฝนสะสมถึง 490-500 มม. ทำให้กรุงเทพมหานครจะต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วม แต่อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครก็ได้พยายามทั้งเรื่องการเปิดปิดประตูน้ำ การเฝ้าระวัง และการพร่องน้ำจากคลอง แต่อยากจะให้ประชาชนมั่นใจว่ากรุงเทพมหานครพร้อมที่จะช่วย พร้อมที่จะระบายน้ำให้เร็วที่สุดและมากที่สุดเต็มความสามารถ ภายใต้อุปกรณ์และเครื่องมือทั้งหลายที่กรุงเทพมหานครมี และสำหรับเขตฝั่งตะวันออกที่มีประสบปัญหา โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลอง โดยให้แต่ละเขตส่งเจ้าหน้าที่สื่อสารให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจถึงปัญหา ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเตรียมความช่วยเหลือ ในเรื่องถุงยังชีพ ส้วมเคลื่อนที่ ร่วมไปถึงรถลากที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนในเบื้องต้น ซึ่งตอนนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการเขตลงสำรวจพื้นที่จุดที่เป็นจุดบกพร่อง ซึ่งอาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากเอกชนที่เป็นเจ้าของที่ดินไม่อนุญาตให้กรุงเทพมหานครเข้าไปดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครก็ต้องรับผิดชอบ โดยเบื้องต้นได้ให้นำกระสอบทรายไปช่วยในการทำคันกั้นน้ำอีกด้วย
นายอมร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนคลองแสนแสบกับคลองประเวศ กรุงเทพมหานครมีอุโมงค์พระรามเก้า ซึ่งสามารถแบ่งน้ำไปได้ถึง 60 ลบ.ม.ต่อวินาที และในกรณีประตูน้ำบางชันเช่นกัน ซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่มีอุโมงค์พระรามเก้า ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูน้ำบางชันได้เลย เพราะถ้าเปิดประตูน้ำบางชันน้ำจะไหลท่วมรามคำแหง มีนบุรี ลงมาถึงพัฒนาการ เพราะฉนั้นประตูน้ำที่บางชัน เปิดบางส่วน เพื่อกั้นน้ำจากด้านนอก แต่ก็จะปล่อยน้ำเพื่อให้ไหลลงสู่อุโมงค์พระรามเก้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในอนาคตเมื่ออุโมงค์บางซื่อสร้างเสร็จภายใน 5-6 เดือนข้างหน้า ก็จะช่วยระบายน้ำในช่วงลาดพร้าว จตุจักร พหลโยธิน ไปถึงวิภาวดี ออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยจัดการปัญหาน้ำรอระบายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
.jpg)
ข่าวเด่น