โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม เดินหน้าผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งภูมิภาคด้านการผลิตบุคลากรคุณภาพภาคการท่องเที่ยวและการโรงแรมแก้ปัญหาแรงงานมีฝีมือขาดแคลนเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมบูมต่อเนื่อง สอดรับนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันในการยกระดับคุณภาพการศึกษาสายอาชีพออกสู่ตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยภายใต้ยุคเออีซี
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กลุ่มสายงานด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมยังคงเป็นสายงานที่มีความต้องการสูงและประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ สวนทางกับอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระบุว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า (2558-2562) มีความต้องการแรงงานในธุรกิจนี้รวม 648,000 คน เฉพาะในปี 59 มีความต้องการบุคลากรมืออาชีพภาคบริการในธุรกิจนี้กว่า 120,000 คน และยังมีแนวโน้มต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีตามการขยายตัวของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่ไทยได้ก้าวสู่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว ซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือระหว่างประเทศสมาชิกอย่างเสรีได้ โดยอาชีพด้านการบริการการท่องเที่ยวถือเป็น 1 ใน 8 สาขาอาชีพหลักที่อยู่ในข้อตกลงร่วมกันนี้ จำเป็นที่ไทยต้องเร่งพัฒนากำลังคนให้ตอบสนองกัน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพควบคู่กันไป
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้บุกเบิกการศึกษาด้านการโรงแรมที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน กล่าวว่า กลุ่มการศึกษาดุสิตธานี เป็นอีกหน่วยงานที่เป็นส่วนสำคัญภายใต้พอร์ตโฟลิโอของดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล โดยต่อยอดมาจากประสบการณ์และความชำนาญในด้านการบริหารงานโรงแรมของดุสิตธานี นำมาพัฒนาเป็นหลักสูตรการศึกษาด้านการโรงแรมโดยเฉพาะเพื่อสร้างแรงงานคุณภาพสำหรับป้อนธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ดุสิตธานีแตกต่างจากแบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาวอื่นๆ
“ที่ผ่านมา กลุ่มการศึกษาดุสิตธานี ได้ผลิตบุคลากรด้านการโรงแรมออกมารองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากผ่านการดำเนินงานของวิทยาลัยดุสิตธานี แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะความต้องการแรงงานในระดับปฏิบัติการ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้ตรงจุดขึ้น ประกอบกับเล็งเห็นโอกาสใหม่ๆ ที่มาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เราจึงขยายฐานการศึกษาด้านการโรงแรมให้ครอบคลุมมาจนถึงระดับพื้นฐานด้วยการเปิดตัว “โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม” ที่ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดจากองค์ความรู้ที่เรามีอยู่ทั้งหลักสูตรของดุสิตธานีเองและหลักสูตรมาตรฐานสากลจากความร่วมมือกับพันธมิตร
สถาบันการศึกษาระดับนานาชาติ โดยตั้งเป้าผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการผลิตบุคลากรภาคการบริการคุณภาพในอนาคต”
ด้าน ดร.ธงชัย สวัสดิสาร ผู้บริหารโรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม กล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นสถาบันฝึกอบรมด้านการโรงแรมตามมาตรฐานสมรรถนะและความสามารถในการให้
บริการของบุคลากรวิชาชีพท่องเที่ยวแห่งอาเซียน (ASEAN Common Competency Standards for Tourism Professionals) อย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ทำการฝึกสอนโดยบุคลากรมืออาชีพจากธุรกิจโรงแรมอย่างแท้จริง เพื่อรองรับข้อตกลงการเคลื่อนย้ายแรงงานในอาเซียน โดยทุกหลักสูตรจะเน้นการฝึกทักษะและลงมือปฏิบัติจริงถึง 70% ดังนั้น นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากที่นี่จะถือว่าเป็นผู้ได้มาตรฐานสากล มีคุณสมบัติสามารถทำงานได้ทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนอีกทั้งเป็นการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันบนเวทีโลกให้กับแรงงานภาคบริการของไทย ซึ่งไม่จำกัดแค่ธุรกิจโรงแรม แต่ยังเป็นแรงงานคุณภาพสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบริการอื่นๆ อีกด้วย อาทิ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า และธุรกิจบริการจัดเลี้ยง เป็นต้น
“โรงเรียนแห่งนี้เปิดกว้างสำหรับเยาวชนและบุคคลทั่วไป ที่มีความสนใจอยากทำงานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ แต่ไม่มีพื้นฐานความรู้ด้านนี้มาก่อน รวมทั้งยังเหมาะสำหรับบุคลากรที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้อยู่แล้วและต้องการเพิ่มพูนความรู้ ยกระดับมาตรฐานการทำงานของตัวเอง เพื่อโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพอีกด้วย โดยขณะนี้ทางโรงเรียนมีความพร้อมสามารถผลิตนักเรียนได้ไม่ต่ำกว่า 700 คนต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค”
“ค่านิยมของสังคมไทยปัจจุบันยังให้น้ำหนักกับการศึกษาสายสามัญมากกว่าก็จริง แต่อยากให้ลองพิจารณาอีกด้านหนึ่งว่า การศึกษาในสายอาชีพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างอนาคตที่ดีและมั่นคงได้ เป็นโอกาสสำหรับเยาวชนที่ต้องการทำงานมีรายได้เลี้ยงตัวเอง และครอบครัวโดยใช้เวลาเรียนไม่นาน โดยเฉพาะสายอาชีพด้านงานบริการในโรงแรมที่ยังคงมีความต้องการแรงงานสูง มีความก้าวหน้าในอาชีพ และสามารถหารายได้ทัดเทียมหรือมากกว่า ผู้ที่จบการศึกษาสายสามัญ ดร.ธงชัย กล่าว
ส่วน ดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการแผนกอาหารไทย โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม เสริมว่า นอกจากเป้าหมายในการสร้างบุคลากรคุณภาพ ป้อนสู่ตลาดแรงงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการแล้ว อีกหนึ่งบทบาทที่โรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรมให้ความสำคัญ คือ การเผยแพร่ศิลปะการปรุงอาหารไทยซึ่งมีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวต่างชาติและเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนเมืองไทย เนื่องจากมองว่าเป็นการช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง โดยทางโรงเรียนจัดตั้งแผนกอาหารไทยขึ้นมาโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการเปิดคอร์สอบรมการประกอบอาหารไทยและขนมไทย ตั้งแต่ 60 – 120 ชั่วโมง ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เรียนเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ข่าวเด่น