วันนี้ (3 ต.ค.59) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมนพพันธ์ สำนักการระบายน้ำ นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ถ.พหลโยธิน บริเวณอนุสรณ์สถานและบริเวณแยกลำลูกกา โดยมีนายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผอ.สำนักการระบายน้ำ ผู้แทนสำนักการโยธา สำนักงานเขตดอนเมือง สำนักงานเขตสายไหม แขวงทางหลวงกรุงเทพ แขวงทางหลวงปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เทศบาลเมืองคูคต เทศบาลเมืองหลักหก กรมสวัสดิการทหารอากาศ (สนามกีฬาธูปะเตมีย์) และสำนักงานชลประทานที่ 11 ร่วมประชุม
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.ปทุมธานี และ กทม. มีจุดอ่อนน้ำท่วมที่สำคัญ คือถนนพหลโยธินบริเวณอนุสรณ์สถานและบริเวณแยกลำลูกกา เนื่องจากพื้นที่มีระดับต่ำเป็นแอ่งกระทะ พื้นที่รับน้ำในบริเวณดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่และมีน้ำจากทางยกระดับไหลลงมาที่จุดอ่อนน้ำท่วม โดยการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมามีการระบายน้ำออกจากพื้นที่ดังนี้ 1.ระบายน้ำทางท่อระบายน้ำถนนวิภาวดีรังสิต และใช้บ่อสูบน้ำถนนวิภาวดีรังสิต ตอนคลองลาดเป็ด ของสำนักการระบายน้ำ กทม. ขนาด 4 ลบ.ม./วินาที ระบายออกคลองเปรมประชากร 2.ระบายน้ำทางท่อระบายน้ำถนนวิภาวดีรังสิต ไปทางทิศเหนือ และใช้บ่อสูบน้ำถนนวิภาวดีรังสิตตอนบึงทะเลสาบ ของกรมทางหลวง ขนาด 0.50 ลบ.ม./วินาที ลงบึงทะเลสาบและคลองสอง 3.ระบายน้ำทางท่อระบายน้ำถนนวิภาวดีรังสิต ไปทางทิศใต้ และใช้บ่อสูบน้ำซอยพหลโยธิน 58 แยก 1 ตอนคูน้ำซอยแอนเน็กซ์ ของสำนักการระบายน้ำ ขนาด 3.5 ลบ.ม./วินาที ระบายน้ำลงปลายซอยแอนเน็กซ์ ต่อเนื่องคลองสอง นอกจากนี้สำนักการระบายน้ำได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ปากซอยพหลโยธิน 60/1 เพื่อเร่งระบายน้ำแนวถนนพหลโยธินอีกด้วย 4.ระบายน้ำออกทางท่อถนนลำลูกกาลงคลองลาดสนุ่น ต่อเนื่องไปยังคลองสอง
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกันของหน่วยงานต่างๆนั้น จะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มบริเวณคลองลาดสนุ่น รื้อท่อระบายน้ำขนาด 1 เมตรและบ่อพักออกเพื่อทำเป็นบ่อเปิดให้การระบายน้ำจากท่อระบายน้ำสามารถลงคลองลาดสนุ่นได้เร็วยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการสูบน้ำบริเวณบึงทะเลสาบถนนพหลโยธินและบริเวณหัวมุมอนุสรณ์สถาน ก่อสร้างท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ถนนลำลูกกา จากถนนพหลโยธินถึงคลองลาดสนุ่นพร้อมระบบสูบระบายน้ำ เสริมผิวจราจรบริเวณอนุสรณ์สถานเชื่อมถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธินบริเวณหน้าสนามกีฬาธูปะเตมีย์ และขุดลอกท่อระบายน้ำในส่วนที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเร่งการระบายน้ำบริเวณดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น
.jpg)
ข่าวเด่น