นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ตลอดเวลา 49 ปีที่ผ่านมา กปน. มีการพัฒนางานระบบประปาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศได้เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ภัยแล้งและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำดิบของ กปน. ประกอบกับการขยายตัวของเมืองและประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น
ในปีนี้ กปน. จึงได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการดำเนินงานโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 9 ภายใต้กรอบแนวคิดในการสร้างความเพียงพอ มั่นคง ยั่งยืน เพื่อเพิ่มเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบประปาของ กปน. ประกอบด้วย การเพิ่มกำลังการผลิตน้ำของโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์อีก 8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นในอนาคต การก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ เชื่อมฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกเพิ่มอีกหนึ่งเส้นทาง เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบส่งน้ำ ซึ่งหากแหล่งน้ำฝั่งหนึ่งฝั่งใดมีปัญหา ก็สามารถส่งน้ำไปช่วยกันได้ ก่อสร้างสถานีสูบจ่ายน้ำแห่งใหม่เพื่อสร้างประสิทธิภาพในระบบสูบจ่ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ก่อสร้างขยายถังเก็บน้ำใสเพิ่มที่สถานีสูบจ่ายน้ำต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบสูบจ่ายน้ำ ตลอดจนเพื่อให้บริการน้ำประปาแก่ประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอกตามรอยต่อของเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กปน. โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 7 ปี (พ.ศ.2559-2565) โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการฯ ดังกล่าวในวันที่ 4 ตุลาคม 2559
นายธนศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนในครั้งนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพความมั่นคงในระบบประปา รองรับสถานการณ์และวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายรัฐบาล และการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 และฉบับที่ 12 ในการให้ประชาชนได้มีน้ำประปาที่สะอาดสำหรับการอุปโภคบริโภคได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างความพึงพอใจและยกระดับการให้บริการน้ำประปากับประชาชนให้ดียิ่งขึ้นไป
ข่าวเด่น