รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งผ่านสื่อมวลชน ต่อกรณีที่มีประเด็นสอบถามเรื่องคำพิพากษาศาลจังหวัดพระโขนงว่า จะมีผลต่อการดำเนินการของ ก.ล.ต. ที่ได้แจ้งบุคคล 8 ราย ว่ามีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจเป็นกรรมการและผู้บริหาร เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2559 หรือไม่นั้น
ก.ล.ต. ขอแจ้งว่า คดีที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้มีคำพิพากษาเป็นคดีแพ่งซึ่งผู้ถือหุ้นของ NMG ได้ยื่นฟ้องต่อ NMG และกรรมการของบริษัท อย่างไรก็ดี การดำเนินการของ ก.ล.ต. เป็นผลสืบเนื่องจากการสั่งฟ้องคดีอาญาของพนักงานอัยการในเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งการสั่งฟ้องของพนักงานอัยการดังกล่าวเป็นผลให้บุคคลทั้ง 8 ราย มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจตามประกาศของคณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงไม่สามารถดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนใด ๆ ไปจนกว่าการดำเนินคดีอาญาจะสิ้นสุด ซึ่งผลของคำพิพากษาในคดีแพ่งของศาลจังหวัดพระโขนงจะเป็นคุณต่อบุคคลทั้ง 8 ราย ในคดีอาญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่ง ก.ล.ต. มิอาจก้าวล่วงได้
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอชี้แจงว่า กระบวนการพิจารณาของ ก.ล.ต. ในกรณีดังกล่าวได้เริ่มขึ้นและดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างรัดกุม นับตั้งแต่วันที่ ก.ล.ต. ได้รับทราบเรื่องการสั่งฟ้องคดีอาญาของพนักงานอัยการ โดย ก.ล.ต. ได้มีการประสานงานกับสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และหารือผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าได้ข้อเท็จจริงและความเห็นที่ครบถ้วนเพียงพอ ซึ่งการดำเนินตามที่กล่าวได้แล้วเสร็จก่อนที่ศาลจังหวัดพระโขนงจะมีคำพิพากษาในคดีแพ่งดังกล่าว
อย่างไรก็ดี บุคคลทั้ง 8 ราย มีสิทธิที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบุคคลทั่วไปภายใต้กรอบของกฎหมาย
ก.ล.ต. ยืนยันว่า การดำเนินงานของ ก.ล.ต. ยึดหลักความซื่อตรง และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ล.ต. ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่มี”
นายสมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “การดำเนินการของ ก.ล.ต. เป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วพบว่าเข้าองค์ประกอบ บุคคลกลุ่มดังกล่าวก็จะขาดคุณสมบัติในทันที ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ ก.ล.ต. ไม่สามารถใช้ดุลยพินิจให้เป็นอื่น“
ข่าวเด่น