รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า ซึ่งเป็นหน่วยงานสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) ได้สำรวจราคาสินค้าอาหารบริโภค ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.ก.ย. 59) พบว่า ประชาชนต้องบริโภคอาหารในราคาที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารไปทำกินเองที่บ้าน เนื่องจากวัตถุดิบในการปรุงอาหารมีราคาปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การออกไปบริโภคอาหารนอกบ้าน ตามร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือตามร้านค้าทั่วไป ทั้งในตลาดและริมถนน ก็มีราคาแพงขึ้นเช่นกัน เพราะพ่อค้าแม่ค้าปรับราคาเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ พบว่าราคาอาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือน ม.ค. อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่มขึ้น 0.65% นอกบ้าน เพิ่ม 1.06% เดือน ก.พ. ในบ้าน เพิ่ม 0.55% นอกบ้าน เพิ่ม 0.76% เดือน มี.ค. ในบ้าน เพิ่ม 0.95% นอกบ้าน เพิ่ม 0.70% เดือน เม.ย. ในบ้านเพิ่ม 1.07% นอกบ้าน เพิ่ม 0.94% เดือน พ.ค. ในบ้าน เพิ่ม 1.07% นอกบ้าน เพิ่ม 0.88% เดือน มิ.ย. ในบ้าน เพิ่ม 1.34% นอกบ้าน เพิ่ม 0.91% เดือน ก.ค. ในบ้าน เพิ่ม 1.22% นอกบ้าน เพิ่ม 0.78% เดือน ส.ค. ในบ้าน เพิ่ม 1.09% นอกบ้าน เพิ่ม 1.02% และเดือน ก.ย. ในบ้านเพิ่ม 1.00% นอกบ้าน เพิ่ม 1.07%
นอกจากปัญหาด้านค่าครองชีพแล้วยังพบว่า ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ ๆ หลายรายการ มีราคาตกต่ำ แม้รัฐบาลจะมีมาตรการออกมารองรับ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น เช่น ข้าวเปลือกเจ้า 5% ราคาปัจจุบันตันละ 7,800-7,900 บาท มันสำปะหลัง ราคากิโลกรัมละ 1.50-1.65 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคากก.ละ 8-8.05 บาท เป็นต้น เป็นการซ้ำเติมรายได้ของเกษตรกร
ข่าวเด่น