ปลัดกระทรวงสาธารณสุขร่วมหารือกำหนดสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน มีเป้าหมายลดป่วย ลดตาย ลดเวลาการรอคอยในการส่งต่อ ลดโรคที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยมีการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุข 4 ด้าน ย้ำสิทธิประโยชน์ของบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวเท่าเทียมกับผู้ที่ใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพทั่วหน้า
วันนี้ (10 ตุลาคม 2559) ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ กทม. นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการอภิปราย เรื่อง “เสริมประสาน ความร่วมมือ เพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพที่ยั่งยืน” ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ในการประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือกำหนดสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน มีเป้าหมายลดป่วย ลดตาย ลดเวลาการรอคอยในการส่งต่อ ลดโรคที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ เพื่อความยั่งยืน ความพอเพียง เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ โดยมีการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุข 4 ด้าน ได้แก่ 1.การให้บริการอย่างทั่วถึง ครอบคลุม 2.สร้างเสริมสุขภาพตามช่วงอายุ 3.สร้างระบบหลักประกันสุขภาพ และ4.พัฒนาระบบรองรับการเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์อาจจะแบ่งเป็น 3 ขั้น ได้แก่ 1.สิทธิที่ทุกคนควรได้รับ ประชาชนต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเท่าเทียมกัน เช่น เจ็บป่วยฉุกเฉินอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ 2.สิทธิเสริม 1 คือสิทธิที่นอกเหนือสิทธิพื้นฐานที่นายจ้างสามารถร่วมประกัน และ3.สิทธิเสริม 2 คือสิทธิที่นอกเหนือความจำเป็นซึ่งผู้รับบริการร่วมประกันได้
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ขณะนี้สิ่งที่เพิ่มเข้ามาเป็นพื้นฐานที่คนไทยทุกคนได้รับคือการจัดให้มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเพื่อดูแลประชาชนเป็นทีมสหวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในสัดส่วนที่เหมาะสม เหมือนมีหมอประจำตัว โดยในปี 2559 มีทั้งหมด 48 ทีม และในปี 2560 จะเพิ่มเป็น 400 ทีม
สำหรับในกลุ่มแรงงานต่างด้าวซึ่งขณะนี้มีผู้ขึ้นทะเบียน 1.9 ล้านคน โดยเป็นแรงงานต่างด้าว รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวอายุ 7-18 ปี กระทรวงสาธารณสุขได้มีระบบดูแล โดยมีการจำหน่ายบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวและคนต่างด้าว ราคา 3,700 บาท คุ้มครอง 2 ปี ค่าตรวจสุขภาพครั้งแรกคนละ 500 บาท ค่าประกันสุขภาพคนละ 3,200 บาท ค่าตรวจสุขภาพครั้งต่อไปอีก 1 ปีค่าตรวจ 500 บาท ในส่วนผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรอายุไม่เกิน 7 ปี ไม่มีค่าตรวจสุขภาพ บัตรราคา 730 บาท คุ้มครอง 2 ปี โดยสิ้นสุดการคุ้มครอง 31 มีนาคม 2561 ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์เท่าเทียมกับผู้ที่ใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพทั่วหน้าหรือบัตรทอง หากตรวจสุขภาพแล้วพบโรคร้ายแรงที่เป็นข้อห้ามการทำงานตามกฎหมาย จะให้การดูแลตามดุลยพินิจของแพทย์ นายแพทย์โสภณกล่าว
ข่าวเด่น