ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สนง.ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังเผยปีงบฯ59 จัดเก็บรายได้รวม 160,988.066 ล้านบาท


 


เมื่อ 10 ตุลาคม 2559 ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง นายกิตติ  สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แถลงข่าวจับกุมสินค้าหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรขาเข้า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท

ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปราม โดยมอบหมายให้ นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง  วางแผนร่วมกับนายวิศณุ วัชราวนิช ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และนายไตรทิพย์ เหล็นเรือง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม

เดือนกันยายน 2559 นั้น มีการจับกุม 24 ราย มูลค่าอากรที่ขาดรวมค่าปรับเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 13 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 100 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. สินค้าที่เลียน/ปลอมเครื่องหมายการค้า (ละเมิดลิขสิทธิ์) ประกอบด้วย
1.1 เสื้อผ้า เช่น กางเกงขายาว PUAL FRANK, ชุดเสื้อ + กางเกงเด็ก Frozen, ชุดเสื้อ + กางเกงเด็ก Stich, KENZO, MICKEY MOUSE, HELLO KITTY, DOREMON
1.2 กระเป๋า เช่น ยี่ห้อ ANELLO, MICHAEL KORS, ADIDAS
1.3 น้ำหอมและเครื่องสำอางค์ เช่น ยี่ห้อ Dior Les Parfumes, MAC, LANCOME, GIORGIO ARMANI
1.4 หัวเทียน ยี่ห้อ BOSCH

2. สินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยาก่อนการนำเข้า เช่น  ครีมทาผิว Anti Gravite, ยาทาเล็บ Moonlight, ลิปสติก, มาสคาร่า
3. สินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ.2510 ต้องได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานสรรพสามิตก่อนการนำเข้า เช่น แอลกอฮอล์ผสมสะระแหน่
4. สินค้าต้องห้ามนำเข้าตาม พ.ร.บ.ปรามการทำให้แพร่หลายและการค้าวัตถุอันลามก พ.ศ. 2471
5. สินค้าต้องห้ามนำเข้า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ.2557
6. สินค้าต้องควบคุมตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ต้องได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก่อนการนำเข้า เช่น ยาจุดกันยุง
7. ของควบคุมการนำเข้า ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. ไพ่ พ.ศ. 2486
8. สินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ. เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 เช่น เครื่องนับก้าว PEDOMETER
9. สินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ. กักพืช พ.ศ. ๒๕๐๗ เช่น สินค้าส้ม InkaFresh CITRUS PERU, และมีข้อความระบุ seedless & easypeeler โดยสินค้าเป็นส้มจากประเทศเปรูเป็นสิ่งต้องห้ามที่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช
10. สินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 เช่น อาหารเสริมแคปซูล L-CARNITINE
11. ถยนต์นั่งเก่าใช้แล้ว เป็นสินค้าควบคุมที่ต้องได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 85) พ.ศ. 2534 ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อ VOLKSWAGEN รุ่น New Beetle จำนวน 4 คัน ยี่ห้อ TOYOTA จำนวน 1 คัน ยี่ห้อ NISSAN รุ่น Mitsuoka Viewt จำนวน 2 คัน รวมทั้งสิ้น 7 คัน

โดยผลงานการจับกุม ของสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 มีการจับกุมทั้งสิ้น 176 ราย มูลค่าอากรที่ขาดรวมค่าปรับเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 167 ล้านบาท

สรุปผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 2559

ปีงบประมาณ 2559 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จัดเก็บรายได้รวม 160,988.066 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 31.36 ของการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร โดยเป็น
 
- รายได้ศุลกากร จำนวน  34,939.870 ล้านบาท (คิดเป็น ร้อยละ 21.70 ของการจัดเก็บรายได้)
- อากรขาเข้า     จำนวน           34,790.638      ล้านบาท
- อากรขาออก     จำนวน                          6.752      ล้านบาท    
- ค่าธรรมเนียม     จำนวน                   142.480     ล้านบาท        
- รายได้แทนหน่วยงานอื่น รวม 126,048.196 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 78.30 ของการจัดเก็บรายได้)
- ภาษีสรรพากร     จำนวน       86,548.711   ล้านบาท
- ภาษีสรรพสามิต จำนวน      27,165.318   ล้านบาท
-ภาษีเพื่อมหาดไทย จำนวน     12,333.168      ล้านบาท

มูลค่าการนำเข้า- ส่งออก
 
การนำเข้า
 
- มูลค่าการนำเข้ารวม 2.152 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 61,553.915 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีงบประมาณ 2558 จำนวน 28,281.926 ล้านบาท หรือลดลง 808.848 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 1.30
 
- มูลค่าการนำเข้าเฉลี่ยต่อเดือน อยู่ที่ 179,356 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5,129.493 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีงบประมาณ 2558 จำนวน 2,356.827 ล้านบาท หรือ 67.404 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 1.30
 
- มูลค่าการนำเข้าสินค้าเฉพาะที่ชำระอากร 303,424.105 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2558 จำนวน 173,287.644 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 36.35
 
- จัดเก็บอากรได้ 34.790.638 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2558 จำนวน 5,414.362 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.47    
      
- จำนวนตู้สินค้าที่นำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบัง มีจำนวน 1.818 ล้านTEU ลดลงกว่าปีงบประมาณ 2558 จำนวน 22,454 TEU คิดเป็นร้อยละ 12.2 เป็นตู้สินค้าที่ตรวจปล่อยที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 1.058 ล้านTEU คิดเป็นร้อยละ 58.20 ของตู้สินค้าที่นำเข้าทั้งหมด และเป็นตู้สินค้าที่ตรวจปล่อยที่อื่น จำนวน 689,997 TEU คิดเป็นร้อยละ 37.94 ของตู้สินค้าที่นำเข้าทั้งหมด ตู้Transhipment จำนวน 22,537 TEU และตู้Transit จำนวน 47,583 TEU
การส่งออก
 
- มูลค่าการส่งออกจำนวน 3.933 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 113,889.811 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าปีงบประมาณ 2558 จำนวน 147,262.970 ล้านบาท หรือ 4,264.079 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 3.89
 
- มูลค่าการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือน อยู่ที่ 491,658.042 ล้านบาท หรือ 14,236.227 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าปีงบประมาณ 2558 จำนวน 176,157.928 ล้านบาท หรือ 5,100.749 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 55.83
 
- จำนวนตู้สินค้าส่งออก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 3.763 ล้านTEU เพิ่มขึ้นกว่าปีงบประมาณ 2558 จำนวน 141,867 TEU คิดเป็นร้อยละ 3.92   

การป้องกันและปราบปราม
การจับกุม  
- สินค้าขาเข้า มีการจับกุม จำนวน 168 ราย จัดเก็บอากรรวมค่าปรับคิดเป็น 162.787 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นกว่าปีงบประมาณ 2558 จำนวน 32 ราย คิดเป็นค่าอากรรวมค่าปรับเพิ่มขึ้น 98.311 ล้านบาท  
ความผิดโดยส่วนใหญ่เป็นความผิดในฐานหลีกเลี่ยงนำเข้าสินค้าต้องห้าม ต้องกำกัด  รองลงมาคือ ความผิดฐานสำแดงพิกัดอัตราศุลกากรไม่ถูกต้องเป็นเหตุให้ค่าภาษีอากรที่ต้องชำระขาด
 
- สินค้าขาออก มีการจับกุม จำนวน 8 ราย  คิดเป็นเงินค่าอากรรวมค่าปรับ จำนวน 3.830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีงบประมาณ 2558 จำนวน 5 ราย คิดเป็นค่าอากรรวมค่าปรับเพิ่มขึ้น 2.784 ล้านบาท
 
ของกลางของตกค้าง
สามารถจำหน่ายของกลางและของค้าง จำนวน 198 คดี มีมูลค่าร่วม 97.124 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2558 จำนวน 109 ราย คิดเป็นมูลค่า 55.955 ล้านบาท
 
เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร
สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้นำเครื่องเอกซเรย์เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจปล่อยสินค้า ปัจจุบันมีเครื่องเอกซเรย์ทั้งหมด 5 เครื่อง คือ ระบบเอกซเรย์แบบติดตั้งถาวร (Fixed Type) จำนวน 4 เครื่อง และระบบเอกซเรย์ตู้สินค้าที่มาทางรถไฟ
 
ผลจากการใช้เครื่องเอกซเรย์ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 25 ราย คิดเป็นค่าอากรรวมค่าปรับ 1.867 ล้านบาท  



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ต.ค. 2559 เวลา : 10:43:54

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:33 am