วันนี้ (11 ตุลาคม 2559) นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่คาดว่าในช่วงปลายสัปดาห์นี้จะยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและตกหนักในบางแห่ง ส่งผลมีน้ำขังตามบริเวณต่างๆ ทั้งพื้นดินและบริเวณรอบบ้าน ทำให้พื้นลื่นการเดินค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุอาจทำให้เกิดการพลัดตกหกล้มได้มากกว่าช่วงปกติ ซึ่งการพลัดตกหกล้มนี้ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของผู้สูงอายุในกลุ่มการบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจรองจากอุบัติเหตุทางถนน
จากข้อมูลเครือข่ายระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ในปี 2558 มีผู้พลัดตกหกล้มสูงกว่า 32,500 ราย โดยเป็นผู้สูงอายุ ( 60 ปีขึ้นไป) จำนวน 12,252 ราย หรือเฉลี่ยเดือนละกว่า 1,000 คน (33 คนต่อวัน) ส่วนผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มมีจำนวน 546 ราย ซึ่งพบว่าในช่วงหน้าฝนจะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากขึ้น โดยสูงสุดในเดือนตุลาคมที่มีผู้บาดเจ็บ 1,130 ราย เสียชีวิตถึง 63 ราย นอกจากนี้ ยังพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเพศชายร้อยละ 60 หกล้มบริเวณนอกบ้าน ขณะเดินทาง และในสถานที่ทำงาน ส่วนในเพศหญิงร้อยละ 55 หกล้มในตัวบ้านและบริเวณรั้วบ้าน ผลจากการพลัดตกหกล้มทำให้เกิดการบาดเจ็บ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น แผลฟกช้ำ แผลถลอก จนถึงอาการรุนแรง เช่น กระดูกหัก โดยเฉพาะกระดูกสะโพกหักมากกว่า 3,000 คนต่อปี ทำให้เกิดความพิการ ต้องพึ่งพาผู้อื่น และอาจเสียชีวิตได้
นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า สาเหตุของการพลัดตกหกล้มกว่าร้อยละ 60 เกิดจากลื่น สะดุด หรือก้าวพลาด บนพื้นระดับเดียวกัน มีเพียงร้อยละ 5.8 เกิดจากการตกหรือล้มจากบันไดและขั้นบันได ทั้งนี้ จากการสำรวจที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุพบว่าส่วนใหญ่มีห้องนอนอยู่ชั้นล่างของบ้าน แต่ร้อยละ 27 ต้องขึ้นลงบันไดไปนอนชั้นบนของบ้าน มีราวจับช่วยพยุงตัวในห้องนอนเพียงร้อยละ 2.7 ห้องน้ำยังใช้โถส้วมแบบนั่งยองถึงร้อยละ 53.9 มีราวจับกันลื่นในห้องน้ำเพียงร้อยละ 8.5 และยังใช้ประตูห้องน้ำแบบเปิดเข้าหาตัวมากถึงร้อยละ 58.8
สำหรับการป้องกันการพลัดตกหกล้มของผู้สูงอายุในช่วงหน้าฝน ได้แก่ 1.ดูแลและจัดการภายในบ้านไม่ให้พื้นเปียกและลื่น 2.จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น ควรจัดให้อยู่ชั้นล่าง และเตียงนอนมีความสูงระดับข้อพับเข่า เก็บบ้านให้เป็นระเบียบ มีแสงสว่างเพียงพอให้ผู้สูงอายุมองเห็นได้ชัดเจน มีราวจับภายในบ้านและห้องน้ำ มีที่นั่งสำหรับอาบน้ำ ใช้โถส้วมแบบชักโครก และไม่ควรล็อคประตูขณะใช้ห้องน้ำ 3.กรณีที่ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวและกินยาหลายชนิด ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่หรือเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่ใช้ เพื่อให้รู้ผลข้างเคียงของยา และ 4.หมั่นออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการทรงตัว
ทั้งนี้ การป้องกันการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ ต้องเริ่มที่ผู้สูงอายุเอง รวมถึงผู้ดูแลและคนในครอบครัวก็ต้อง ใส่ใจดูแลและสังเกตผู้สูงอายุเสมอ เพื่อป้องกันและลดปัจจัยเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม นอกจากนี้ ผู้นำชุมชนและคนในชุมชนควรร่วมกันสำรวจสิ่งแวดล้อมหรือจุดเสี่ยงในชุมชนและร่วมปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงต่างๆ เช่น พื้นทางเดิน ถนน เป็นต้น หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
.jpg)
ข่าวเด่น