ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง -บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วานนี้เปิดฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX บวกกว่า 3% แต่ก็ยังมีแรงขายปรับพอร์ตการลงทุนเข้ามามากขึ้นในช่วงบ่ายวานนี้ กดดันให้ SET INDEX หลุดแนว 1,450 จุด ลงมาปิดที่ 1,442.21 จุด ลบอีก 14.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 65,340 ล้านบาท
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเพียง 513 ล้านบาท Short สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 เพียง 335 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 ลดลงเหลือ 3,374 ล้านบาท เมื่อเทียบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า 0.67% dod ถือว่าแรงขายเบาบาง

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          เงินทุนต่างชาติชะลอตัวทั้งตลาดหุ้น – TFEX – ตลาดตราสารหนี้
          ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ วานนี้อ่อนค่า 0.67% dod อ่อนค่าเป็นลำดับ 2 ของเอเชีย เช้านี้ค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าเล็กน้อย 35.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ (8.12 น.)
          คืนนี้ติดตามรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อประเมินมุมมองของเฟดต่อเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 13)
          ระดับความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของสถาบันภายในประเทศยังคงเปราะบาง ขายสุทธิ 10,655 ล้านบาท ตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา แม้ว่าบรรยากาศรอบเอเชียจะเป็นกลาง ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ยืนเหนือ US$50/barrel และกระแสเงินทุนต่างชาติที่ซื้อสลับขายบางส่วนก็ตาม เราประเมินว่า สถาบันภายในประเทศให้น้ำหนักกับทิศทางค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หากกลับมาทรงตัวถึงแข็งค่าได้เล็กน้อย เชื่อว่าสถาบันภายในประเทศจะชะลอแรงขายลง อาจมี Covered short บางส่วนได้เช่นกัน เพราะปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยยังคงแข็งแกร่ง และเติบโต yoy และ/หรือ qoq เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการประกาศงบ 3Q59 ของหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารสัปดาห์หน้าเป็นสำคัญ
          นอกจากการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทแล้ว มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการประเมินบรรยากาศการลงทุน ซึ่งหากกลับมาชะลอตัวเหลือ 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน น่าจะทำให้ downside risk ของ SET INDEX จำกัดมากขึ้น
          เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,430-1,450 จุด พร้อมให้น้ำหนักกับการเกิด Technical rebound ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย กลยุทธ์การลงทุนยังคงใช้ “Swing Trade ขึ้นแรงขาย และลงแรงซื้อ” ต่อเนื่อง

Strategy of the Day
          1. สะสม BEM : ราคาปิด 6.75 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
          a) MBKET ประเมินว่าหุ้นกลุ่ม Defensive เช่น ธุรกิจรถไฟฟ้า, ทางด่วนจะเป็นที่พักเงินได้ดีภายใต้ภาวะตลาดที่ผันผวน 
          b) คาดกำไรสุทธิ 3Q59 จะเติบโต yoy และ qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้การรับจ้างเดือนรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรายได้ค่าทางด่วนศรีรัช ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการใน เดือน ส.ค. นอกจากนั้น ดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากการ Refinance เงินกู้ตั้งแต่ 2Q59 ที่ผ่านมา 
          c) ราคาหุ้นปรับตัวลง 24% จากจุดสูงสุดของปีในช่วงเดือน ส.ค. จึงเชือว่า ณ ระดับราคาปัจจุบันมี Downside Risk ที่จำกัดแล้ว และมี Valuation ที่ระดับ PER2560 ที่ 29.4 เท่า ถูกกว่า BTS ที่ 48.8 เท่า 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาขายสุทธิ US$248 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$86 ล้าน 
ลดน้ำหนักในตลาด TIP ทุกตลาด

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอการลงทุนทั้ง 3 ตลาดในไทย แต่ที่น่าสนใจคือ นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิใน Metal Futures ตลอด 3 วันทำการ
          นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แต่ก็เพียง 513 ล้านบาท เทียบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ ถือว่าเป็นการปรับพอร์ตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 134,219 ล้านบาท
          ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 ลดลงเหลือเพียง 335 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 7,452 สัญญา เราเชื่อว่านักลงทุนกลุ่มนี้ทยอยเปิดสถานะ Short กดให้ S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 กว้างขึ้นเป็น 2.54 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เพียง 0.77 จุด ทำให้ยอด QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ 7,180 สัญญา
          และนักลงทุนกลุ่มนี้ คงการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 ลดลงเช่นกันเหลือ 3,374 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 14,991 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 7 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 7 อีก 3.44bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 3.62bps ปิดที่ 2.276%

Short-Selling วานนี้ 
เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 มากถึง 2,232 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,703 ล้านบาท  และ SBL กระจายตัว 81 ตัว วันก่อนหน้า 70 ตัว           

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิหนาแน่น ลดน้ำหนักกลุ่มขนส่ง ต่อเนื่อง 
          การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 1,294 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,139 ล้านบาท โดยยังคงเลืกลดน้ำหนักกลุ่มขนส่งมากที่สุด 492 ล้านบาท กลุ่ม ICT ขายสุทธิ 297 ล้านบาท และกลุ่มโรงพยาบาลขายสุทธิ 207 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิกลุ่มค้าปลีกสูงสุด เพียง 146 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          ไม่มี

ยุโรป
          IEA ประเมินตลาดน้ำมันจะกลับสู่ภาวะสมดุลย์เร็วกว่าคาดหากโอเปกเข้มงวดโควต้าการผลิต: IEA ประเมินปริมาณน้ำมันในตลาดโลกอาจลดลงสู่ระดับอุปสงค์น้ำมันได้เร็วขึ้น หาก โอเปก และรัสเซียเห็นชอบร่วมกันในการลดกำลังการผลิต แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นได้เร็วเพียงใด  
          การประเมินกรีซออกมาเป็นบวกแต่อียูยังไม่อนุมัติเงินกู้รอบใหม่: การประเมินฐานะการเงินการคลัง และเศรษฐกิจของกรีซ โดยรมว.คลังของอียู ออกมาเป็นบวก ทั้งนี้กรีซจะต้องปฎิรูปกองทุนบำเหน็จบำนาญและตลาดแรงงานในวงกว้าง พร้อมกับการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจและประเด็นอื่นๆ ให้ได้ตามแผนที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขเงินช่วยเหลือรอบที่ 3 ปี 2553 วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร ซึ่งอียูได้ให้เงินช่วยเหลือไปแล้วทั้งสิ้น 3.35 หมื่นล้านยูโร 

จีน
          จีนเตรียมแผนลดระดับหนี้ภาคเอกชน: The National Development and Reform Commission เตรียมวางแผนที่จะลดระดับหนี้ภาคเอกชน หลังระดับหนี้ภาคเอกชนอยู่ในระดับสูง ทำให้เป็นการยากต่อการดำเนินธุรกิจของเอกชน กลายเป็นความเสี่ยงต่อตลาดเงิน โดยจีนอาจอนุญาตให้มีเงินสนับสนุนการเพิ่มทุน และการควบคุมระดับหนี้ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น รวมถึงการเข้าไปตรวจสอบรัฐวิสาหกิจเพื่อลดระดับหนี้เช่นกัน หากบริษัทใดไม่ไหวก็สามารถเข้าสู่ขบวนการล้มละลายได้

เอเชียแปซิฟิก
          ตลาดคาด BoK จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้: Reuters Poll ประเมินว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมีความเสี่ยงจากระดับหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้นและในอัตราเร่ง ภายใต้ความท้าทายของการส่งออกที่หดตัวลงอย่างน้อย 20 เดือนติดต่อกัน 
          สิงคโปร์สั่งให้ Falcon Bank ปิดดำเนินการ และปรับ DBS และ UBS: Monetary Authority of Singapore ได้ประกาศปิดส่วนของ Wealth Management ของ Falcon Private Bank รวมถึงสั่งปรับเจ้าหนี้ DBS bank และ UBS AG ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณี 1MDB 
          สภาฯ ญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณพิเศษ US$3.2 หมื่นล้าน: สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2561 โดยเป็นงบประมาณเพิ่มเติมรอบที่ 2 ของปีนี้ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการขายพันธบัตร 2.75 ล้านล้านเยน เพื่อนำมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดย 7.5 ล้านล้านเยนจะถูกใช้จ่ายโดยรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น นำไปปรับปรุงโครงข่ายรถไฟ ปรับปรุงท่าเรือ ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย และปรับปรุงค่าแรงงานสำหรับแรงงานรายวัน เป็นต้น 

ไทย
          ไม่มี
 

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 12 ต.ค. 2559


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ต.ค. 2559 เวลา : 10:21:42

17-06-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 17, 2024, 3:58 pm