ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กฟผ.เตรียมทบทวนปริมาณสำรองไฟฟ้าที่สูง 30% ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 15%


 


นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีนโยบายให้ กฟผ.พิจารณาทบทวนปริมาณสำรองการผลิตไฟฟ้าที่มีสูงถึง 30% ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 15% ว่า กฟผ.กำลังทบทวนแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี 2015) ว่าจะสามารถลดปริมาณสำรองลงได้อย่างไร ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว  หากเลือกใช้แนวทางเลื่อนกำหนดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่ทำสัญญารับซื้อไฟฟ้ากับเอกชนไว้แล้วคงเป็นเรื่องยาก แต่หากเลื่อนก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ที่จะทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่หมดอายุออกไปด้วยจะมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศ

โรงไฟฟ้าของ กฟผ.ส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าทดแทน เช่น แม่เมาะ พระนครใต้   บางปะกง โดยโรงไฟฟ้าแม่เมาะมีความจำเป็นต้องกระจายเชื้อเพลิงเพื่อรักษาระดับต้นทุนและลดความเสี่ยงการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ส่วนโรงไฟฟ้าพระนครใต้และบางปะกงจะผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีความต้องการไฟฟ้ากว่าหมื่นเมกะวัตต์ ซึ่งเป็นจุดสำคัญหากเกิดปัญหาไฟตกหรือดับจะมีความเสียหายต่อภาคเศรษฐกิจสูงถึง 80 บาทต่อหน่วย

สำหรับกำลังการผลิตใหม่ตามแผน PDP 2015 นั้น หากพิจารณาสัดส่วนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่จะดำเนินการโดยภาคเอกชนเกือบ50% ส่วน กฟผ.จะเป็นโรงไฟฟ้าที่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่หมดอายุ ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้าที่สูงถึง 30% นั้นยอมรับว่าแผน PDP ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ยึดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวระดับ 4% ต่อปี แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำลงต่อเนื่อง ปัจจุบันเฉลี่ยแค่ 3-3.2% ส่งผลให้การวางแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าล่วงหน้าระยะเวลา 5 ปี ส่งผลให้สำรองไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมารัฐมีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในปริมาณที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ กฟผ. ต้องสร้างโรงไฟฟ้าหลักเพื่อรองรับกับพลังงานทดแทนเพื่อให้สามารถเดินเครื่องได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะพลังงานทดแทน เช่น แสงอาทิตย์กลางคืนผลิตไม่ได้ ลมไม่แน่นอน ชีวมวลขึ้นอยู่กับฤดูเก็บเกี่ยวทางการเกษตร

 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ต.ค. 2559 เวลา : 07:16:29

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:12 am