บมจ.กรุ๊ปลีส หรือ GL ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ประกาศรุกใหญ่ตลาดสินเชื่อในเมียนมาร์ ร่วมมือพันธมิตรกลุ่มใหม่นำโดยนักธุรกิจชั้นนำนาย Aung Moe Kyaw ซึ่งเป็นประธานบริษัท Myanmar Distillery และกรรมการผู้จัดการบริษัท Century Finance โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง GL ถือหุ้น 57% กับกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นนำโดยนาย Aung Moe Kyaw (AMK Consortium ) ถือหุ้น 43% เตรียมรุกใหญ่สินเชื่อประเภทต่างๆ ทั่วประเทศเมียนมาร์ซึ่งกำลังบูมสุดขีด โดยคาดว่าบริษัทฯ ร่วมทุนใหม่จะก่อตั้งแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2560
“ผมมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับ U Aung Moe Kyaw และหุ้นส่วนรายอื่นในครั้งนี้ เนื่องจากว่าเป็นความร่วมมือที่วิน-วินสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่าย GL จะใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มดิจิทัลไฟแนนซ์ ผสมผสานกับเครือข่ายกว้างขวางทั่วประเทศเมียนมาร์ของ U Aung Moe Kyaw ในการให้บริการสินเชื่อต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวเมียนมาร์โดยเฉพาะประชาชนระดับรากหญ้าในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ” นายมิทซิจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL กล่าวในพิธีลงนามเอ็มโอยูกับนาย Aung Moe Kyaw ที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559
จากข้อมูลในหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเช้าวันเดียวกันระบุว่ากลุ่ม AMK Consortium มีส่วนแบ่งตลาด 65% ของการจัดจำหน่ายสุราในประเทศเมียนมาร์ผ่านร้านค้าของชำกว่า 22,000 ร้านทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนร้านขายของชำเหล่านี้ ประกอบด้วยร้านขายส่งประมาณ 1,400 แห่ง ซึ่งทำธุรกิจคล้ายกับโรงรับจำนำ โดยเครือข่ายกระจายสินค้าเหล่านี้ถือว่าเป็นเครือข่ายที่ใหญ่และครอบคลุมที่สุดในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจะสอดรับกับแพลตฟอร์มดิจิทัลไฟแนนซ์ของ GL ได้อย่างดียิ่ง
นายมิทซิจิ กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จในความร่วมมือระหว่าง GL กับเครือข่ายเอเย่นต์ของ True Money ในประเทศกัมพูชา บ่งชี้ชัดเจนว่าโมเดลธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ของ GL จะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ 100% จากเครือข่ายตัวแทนร้านขายของชำของกลุ่ม AMK Consortium เช่นกัน ดังนั้นโมเดลธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ก็จะเป็นการผสมผสานระหว่างโมเดล ‘Channeling Services’ ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง GL มีบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มธนาคาร J TRUST โดยบริษัทร่วมทุนมีหน้าที่แสวงหาและบริหารจัดการลูกค้าสินเชื่อและส่งต่อให้ฝ่ายธนาคารเป็นผู้ปล่อยกู้ ในขณะที่โมเดล ‘Agent’ ในกัมพูชานั้นมีเครือข่ายตัวแทนของ True Money ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำหน้าที่การตลาดคัดสรรลูกค้าสินเชื่อให้กับ GL
“โมเดลธุรกิจเหล่านี้ถือว่าค่อนข้างใหม่ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและต้องใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เมื่อผสมผสานกันทั้งหมดแล้ว เราก็สามารถปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์กับชาวเมียนมาร์” นายมิทซึจิ กล่าว
สำหรับบริษัท Century Finance เป็นหนึ่งในไฟแนนซ์ 15 แห่ง ที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางของเมียนมาร์ โดยปัจจุบันให้บริการเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก แต่หลังจากการผนึกกำลังกับ GL ในครั้งนี้ ขอบข่ายบริการด้านการเงินจะขยายไปสู่การให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ เครื่องจักรกลการเกษตร แผงโซล่าร์และสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคประเภทอื่นๆ โดยผ่านระบบ ‘Channeling Services’ ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัทฯ ร่วมทุนแห่งใหม่ระหว่าง GL กับกลุ่ม AMK Consortium
การประกาศรุกใหญ่ในประเทศเมียนมาร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ GL ได้ซื้อกิจการธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ของบริษัท BG Myanmar Microfinance (BGMM) เมื่อเร็วๆ นี้ โดยหลังจากการผนึกกำลังกับพันธมิตรใหม่กลุ่มล่าสุดนี้ ส่งผลให้ GL สามารถให้บริการสินเชื่อในตลาดได้ทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกระดับ ตั้งแต่สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์รายย่อยผ่านบริษัท BGMM ถึงสินเชื่อที่มีมูลค่าสูง อาทิ เครื่องเกี่ยวข้าว ผ่านบริษัท Century Finance
ทั้งนี้ การรุกใหญ่ในตลาดเมียนมาร์ครั้งนี้ประจวบเหมาะกับเป็นจังหวะที่เศรษฐกิจในประเทศกำลังบูมสุดขีดหลังจากการยกเลิกมาตรการแซงชั่นทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เนื่องจากมีการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่และถือว่าเป็นการขยายตลาดครั้งสำคัญของ GL หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้จากการขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกัมพูชา สปป.ลาว อินโดนีเซียและศรีลังกา โดยความสำเร็จเหล่านี้ได้สะท้อนในรายได้และผลกำไรของบริษัทฯ ซึ่งปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องดังเห็นได้จากกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปีนี้ที่พุ่งขึ้นถึง 255.85 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและนับเป็นการทำสถิตินิวไฮต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 โดยผู้บริหารของบริษัทฯ ได้กล่าวแสดงความมั่นใจว่าผลกำไรจะเดินหน้าสร้างสถิติสูงสุดใหม่ในอนาคต
ข่าวเด่น