แนวโน้มราคาทอง (14ต.ค.59) โดย YLG Bullion International
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 13 ตุลาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,352.91-1,361.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,250 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น.ของวันที่ 13/10/16)
แนวโน้มวันที่ 14 ตุลาคม 2559
รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ FOMC เมื่อวันที่ 20-21 กันยายนบ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายรายพิจารณาว่า เป็นการเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ และผู้กำหนดนโยบายมีความเห็นแตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่องและกระตุ้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวใกล้จุดสูงสุดรอบ 7 เดือน
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งแตะจุดสูงสุดรอบ 4 เดือน และดอลลาร์สหรัฐยังได้แรงหนุนจากการที่นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันในการสำรวจความเห็นประชาชนยิ่งทำให้เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นมีแรงขายออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำพยายามทรงตัวและเคลื่อนไหวในกรอบแคบส่วนหนึ่งทองคำได้รับแรงหนุน หลังจากข้อมูลการค้าเดือนกันยายนของจีนพบว่า ยอดส่งออกร่วงลงอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดความวิตกใหม่เกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจจีน ทำให้มีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียข้อมูลที่ย่ำแย่ดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกว่าจีนอาจจะดำเนินนโยบายค่าเงินที่อ่อนค่าลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งได้สร้างแรงซื้อหนุนราคาทองคำ
ขณะที่ราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่องโดยระหว่างวันแตะระดับ 35.884 อ่อนค่าสุดนับตั้งแต่ 26 มกราคม 2559 หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 411.36 ล้านบาท และขายสุทธิตราสารหนี้ไทยทุกช่วงอายุ 8.8 พันล้านบาท แต่ถ้านับเฉพาะตราสารหนี้อายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ขายสุทธิ 2.55 พันล้านบาท โดยแนะนำนักลงทุนควรติดตามทิศทางของราคาอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,250-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,245 (21,050บาท) 1,228 (20,760บาท) 1,210 (20,460บาท)
แนวต้าน 1,265 (21,390บาท) 1,274 (21,540บาท) 1,283 (21,700บาท)
ข่าวเด่น