พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันที่ 17 ต.ค. 2559 ครั้งที่ 36/2559 ได้พิจารณาเรื่อง ความจำเป็นเรื่องการใช้คลื่นความถี่ และกำหนดระยะเวลาในการถือครองคลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ โดย กสท. ได้พิจารณาตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทาน และพิจารณาความจำเป็นการใช้คลี่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ แล้วได้มีมติดังต่อไปนี้ 1. เห็นชอบผลการพิจารณา และตรวจสอบสิทธิการใช้งานคลื่นความถี่ และการประกอบกิจการกระจายเสียงของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยทุกหน่วยงานมีการใช้คลื่นความถี่และการประกอบกิจการกระจายเสียงและใช้คลื่นความถี่มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
2. กรณี บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) คลื่นความถี่ FM 105.50 MHz มีการใช้งานคลื่นความถี่ และมีการทำสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 เป็นกรณีที่ กสท.ได้เคยมีมติว่าสัญญาสัมปทานเป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นการกำหนดระยะเวลาการถือครอง หรือใช้งานคลื่นความถี่จึงกำหนดตามแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ พ.ศ.2555 ยุทธศาสตร์การคืนคลื่นความถี่ข้อ 8.1 ซึ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อสัญญาสัมปทานสิ้นสุดลง
3. กรณีกิจการกระจายเสียงที่ดำเนินการโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ จำนวน27 หน่วยงาน 538 คลื่นความถี่ ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่มีการกำหนดระยะเวลาการใช้งานคลื่นความถี่ไว้ กสท. เห็นควรกำหนดให้ระยะเวลาการถือครอง หรือใช้งานคลื่นความถี่มีระยะเวลาจนถึงระยะเวลาสูงสุดที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ พ.ศ.2555 ยุทธศาสตร์การคืนคลื่นความถี่ข้อ 8.2
4. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่ประสงค์จะคืนคลื่นความถี่ก่อนระยะเวลาในข้อ 2 และ 3 สามารถดำเนินการได้ด้วยความสมัครใจ เพื่อให้ กสทช. นำคลื่นความถี่ดังกล่าวไปจัดสรรใหม่ โดยให้นำเสนอ กสทช. เพื่อพิจารณา
ประธาน กสท. กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มีการพิจารณาแนวทางการขอพัก หรือหยุดให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ เนื่องจากปฏิบัติผิดสัญญาเช่าให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล แบ่งเป็น แนวทางปฏิบัติของผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ คือ 1. ต้องมีการยื่นคำร้องเพื่อให้ กสท. เห็นชอบการพักหรือหยุดให้บริการโครงข่ายโดยต้องแจ้งเหตุผล ความจำเป็น และข้อเท็จจริง เป็นที่ยุติว่าผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ได้ใช้สิทธิตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ นอกจากนี้ให้มีมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการ เช่น การส่งสัญญาณให้เพิ่มเติมอีก 30 วัน เมื่อมีการยกเลิกสัญญา
2. เมื่อได้รับความเห็นชอบจาก กสท. ตามข้อ 1 แล้ว ให้ผู้ให้บริการโครงข่ายแจ้งการยกเลิกสัญญานั้นไปยังผู้ใช้โครงข่ายโทรทัศน์ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน และ3. ผู้ให้บริการโครงข่ายต้องดำเนินการตามมาตรการเยียวยาตามข้อ 1. หลังจากมีการยกเลิกสัญญาแล้วให้ครบถ้วน
ส่วนแนวปฏิบัติของผู้ใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ คือ 1. ผู้ใช้บริการโครงข่ายที่ถูกพัก หรือหยุดการให้บริการโครงข่ายจะต้องดำเนินการติดต่อขอใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์กับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์รายใหม่ พร้อมทั้งแจ้ง กสท. เพื่อขอความเห็นชอบในการเปลี่ยนแปลงการใช้งานคลื่นความถี่ภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้งจากผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์รายเดิม และ2. กรณีที่ผู้ใช้บริการโครงข่ายไม่สามารถติดต่อขอเช่าใช้บริการโครงข่ายรายใหม่ได้ทันภายใน 30 วัน ตามข้อ 1. ให้ดำเนินการขอความเห็นชอบจาก กสท. ในการพัก หรือหยุดการให้บริการ ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจาก กสท. ก่อน และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการเยียวยาความเสียหายตามที่ กสท. กำหนด
ข่าวเด่น