ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 น้อยลง ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนระดับน้ำลดลงตามไปด้วย
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อรวมกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีฝนตกหนักทางตอนบนของลุ่มน้ำสะแกกรัง ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสูงขึ้น ในช่วงวันที่ 22 – 24 ตุลาคม 2559 กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำในบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยใช้ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรับน้ำเข้าไปตามศักยภาพที่รับได้ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แนวโน้มน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำยังคงลดลง กรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างฯเหลือ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร(เมื่อวานนี้ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร) ส่วนที่เขื่อนพระราม 6 ปริมาณน้ำไหลผ่านได้ลดลงเหลือ 585 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาลดลงตามลำดับ
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จะไหลมาบรรจบกันที่บริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,278 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร จะมีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งกรมอุทกศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าจะสูงสุดในวันที่ 19 ตุลาคม 2559 จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ นอกคันกั้นน้ำ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย
อนึ่ง สถานการณ์น้ำในภาพรวม ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักบริเวณตอนบนของลุ่มน้ำ มีฝนตกน้อยลง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าลดลงด้วย กรมชลประทาน ได้พิจารณาเก็บกักน้ำในเขื่อน รวมทั้งคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำของชลประทาน พื้นที่แก้มลิงต่างๆ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงตามความเหมาะสมต่อไป
ข่าวเด่น