หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดในแดนลบ แต่ฟื้นตัวได้หลังตัวเลข GDP 3Q59 ของจีนออกมาใกล้กับคาดการณ์ และแรงหนุนจากปัจจัยเทคนิคหลังดัชนีปรับตัวผ่านบริเวณ 1,480 จุดได้ ส่งผลให้ SET INDEX ปิดที่ 1,486.28 จุด เพิ่มขึ้น 8.74 จุด หรือ +0.6% มูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันที่ 7 ติดต่อกัน แต่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ครั้งแรกในรอบ 4 วัน และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การโต้วาทีรอบสุดท้ายระหว่าง Clinton และ Trump ก่อนเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.
การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะคงนโยบายการเงิน แต่มีโอกาสส่งสัญญาณการขยายอายุโครงการ QE ในการประชุมเดือน ธ.ค.2559
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันลดลงสวนทางคาดการณ์ และซาอุดิอาระเบียให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และ Demand – Supply จะมีความสมดุลขึ้นในปี 2560
BBL, DTAC จะรายงานงบ 3Q59 ในวันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 19)
MBKET คาดว่า SET INDEX วันนี้จะมีทิศทางของการไต่ระดับขึ้นต่อเพื่อทดสอบบริเวณ 1495-1500 จุด และมีแนวรับที่ 1,480 จุด จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมีที่ได้ Sentiment บวกจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ NYMEX +2.6% dod ทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน เนื่องจาก EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงสวนทางคาดการณ์ และมุมมองเชิงบวกของซาอุดิอาระเบียว่าราคาน้ำมันดิบได้ผ่านขาลงแล้วในปีนี้ และ Demand-Supply จะมีความสมดุลขึ้นในปี 2560
แม้หุ้นกลุ่มธนาคารจะยังถูกกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่ประเมินว่าหลังผ่านพ้นช่วงรายงานผลประกอบการ 3Q59 แล้วในสัปดาห์นี้ จะเริ่มฟื้นตัวได้เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงได้สะท้อนปัจจัยลบแล้ว
ต่างชาติกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุด 35.00 บาท/USD เป็นสัญญาณที่ดีว่าแรงขายในตลาดหุ้นมีโอกาสลดลง
ติดตามการประชุม ECB คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณขยายอายุโครงการ QE / ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาในการประชุมรอบเดือน ธ.ค. ขณะที่การโต้วาทีรอบสุดท้ายระหว่าง Clinton และ Trump เชื่อว่า Clintion จะมีคะแนนที่ทิ้งห่างมากขึ้น และเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน
Strategy of the Day
1. สะสม PTTGC : ราคาปิด 60.50 บาท ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดในวันนี จากแรงหนุนของราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้น +2.6% dod ทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน ปิดที่ US$51.60/barrel
b) คาดกำไรจากการดำเนินงาน 3Q59 จะเติบโต qoq เนื่องจากโรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุงกลับมาเดินเครื่องการผลิตเต็มที่ และโรงงานโอเลฟินส์ที่หยุดนอกแผนใน 2Q59 ก็จะกลับมาเดินเครื่องเต็มที่เช่นกันใน 3Q59 และผลักดันให้กำไรสุทธิ 2H59 ปรับตัวขึ้นโดดเด่นเมื่อเทียบกับ 1H59
c) คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 ที่ 2.37 หมื่นล้านบาท +15.6% yoy และเติบโต +10.5% yoy เป็น 2.61 หมื่นล้านบาท ในปี 2560 ขณะที่ Valuation ค่อนข้างถูกซื้อขาย PBV2560 เพียง 1.07 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีราว 4.5% ต่อปี
2. สะสม PTT : ราคาปิด 354.00 บาท ราคาเหมาะสม 358.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดในวันนี จากแรงหนุนของราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้น +2.6% dod ทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน ปิดที่ US$51.60/barrel
b) มีโอกาสเกิด Short covering เนื่องจากรวม 3 วันที่ผ่านมาหุ้น PTT ถูก SBL สูงสุดเป็นอันดับ 2 มูลค่า 438 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 355.78 บาท
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +23% yoy เป็น 9.1 หมื่นล้านบาท ซื้อขายที่ PER2560 11.1 เท่า และมี Catalyst ในปี 2560 คือการ IPO ของบริษัทลูกซึ่งทำธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$320.5 เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ US$155.0
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน แต่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Futureในรอบ 4 วัน และซื้อสุทธิตลาดตราหนี้วันที่ 2 ติดต่อกัน
นักลงทุนต่างชาติ คงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันอีก 2,557 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 2,336 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเหลือ 120,183 ล้านบาท
แต่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน 9,677 สัญญา 1,865 สัญญา จากวันก่อนหน้าที่ Short สุทธิ 7,241 สัญญา ทำให้ยอด QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Short สุทธิลดลงเหลือ 36,806 สัญญา
และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้วันที่ 2 ติดต่อกัน 2,609 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 2,019 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 4,628 ล้านบาท ส่งผลให้ ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีลดลงวันที่ 5 ติดต่อกันเหลือ 2.094% จากวันก่อนหน้าที่ 2.139%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า SBL ลดลงเหลือ 1,070 ล้านบาท ลดลง จากวันก่อนหน้าที่ 1,398 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิ 487 ล้านบาท จากซื้อสุทธิ 236 ล้านบาท ในวันก่อนหน้า
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาขายสุทธิ 487 ล้านบาท จากซื้อสุทธิ 236 ล้านบาทในวันก่อนหน้า หุ้นกลุ่มที่ขายสุทธิสูงสุด ได้แก่ กลุ่มธนาคาร 646 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง 235 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก 159 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ซื้อสุทธิสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอาหาร 461 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน 157 ล้านบาท และกลุ่มสื่อสาร 149 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศออกมาสวนทางที่คาดการณ์ไว้
- ยอดก่อสร้างใหม่ เดือน ก.ย. ปรับตัวลดลง -9.0% mom สวนทางกับ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่2.9% mom และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ -5.8% mom
- ยอดการก่อสร้าง เดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 6.3% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ที่ 1.1% mom สวนทางกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.4% mom
EIA ประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมัน : ตัวเลขสต๊อกน้ำมันเดือนตุลาคมออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันทำจุดสูงสุดในรอบ 15 เดือน
ยุโรป
ตัวเลขอัตราการว่างงานของประเทศอังกฤษออกมาเป็นกลาง : ตัวเลขการว่างงานของประเทศอังกฤษเดือน ก.ย. อยู่ที่ 4.9% เท่ากับ Bloomberg Consenses คาดการณ์ไว้ และเท่ากับเดือนก่อนหน้า
ยอดการก่อสร้างของยุโรปลดลง : ยอดการก่อสร้างของสหภาพยุโรปเดือน ก.ย. ปรับตัวลดลง 0.9% mom สวนทางกับเดือนก่อนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% mom
จีน
ตัวเลข GDP ออกมาเป็นกลาง : ตัวเลข GDP ของประเทศใน 3Q59 ปรับตัวเท่ากับ 10.7% qoq เท่ากับ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ และเดือนก่อนหน้า จากตัวเลขการส่งออกที่ปรับตัวลดลง แสดงถึงการเติบโตของประเทศมีแรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจภายในประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นกลาง
- ยอดค้าปลีก เดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 10.7% yoy เท่ากับ Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ แต่สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 10.6% yoy
- ผลผลิตอุตสาหกรรม เดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 6.1% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ที่ 6.4%yoy และเดือนก่อนหน้าที่ 6.3% yoy
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 20 ต.ค. 2559
ข่าวเด่น