ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดปรับตัวขึ้น ด้วยแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,492.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.45 จุด หรือ +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยในรอบ 8 วัน 1,223 ล้านบาท และเป็นการซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาด เนื่องจาก Long สุทธิ SET50 Index Future และซื้อสุทธิตลาดตราหนี้ไทยด้วยเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ผลโต้วาทีรอบสุดท้ายของสหรัฐฯ Clinton ชนะไปด้วยคะแนน 52% ต่อ 39% และเป็นการชนะทั้ง 3 รอบในการโต้วาที
KTB รายงานงบ 3Q59 ออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาด 16% ขณะที่ BBL และ DTAC ออกมาตามคาด
ECB คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% และดอกเบี้ยเงินฝาก -0.4% ตามคาดการณ์ของตลาด
ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันปิยมหาราช
Dollar Index แข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 20)
MBKET คาดว่า SET INDEX วันนี้จะกลับมาเคลื่อนไหว Sideway 1,485-1,500 จุด และเชื่อว่าจะยังไม่ทะลุผ่านบริเวณ 1,500 จุด เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดซึมตัวลงในช่วงท้าย
การประชุม ECB เมื่อคืนนี้ออกมาตามคาดการณ์ของตลาด คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% และไม่มีแนวคิดที่จะลดวงเงิน QE ขณะที่การขยายอายุโครงการ QE ที่จะสิ้นสุดลง มี.ค.2560 มีความเป็นไปได้หากมีความจำเป็น โดยจะพิจารณาอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค.
หุ้นกลุ่มธนาคารมี Sentiment เชิงบวกมากขึ้น หลังการประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหาร TMB ตั้งเป้า Credit Cost ปี 2560 จะไม่เพิ่มขึ้นจากปี 2559 และเชื่อว่า NPL จะเป็นจุด Peak ในสิ้นปี 2559 รวมทั้ง NVDR กลับมาซื้อสุทธิหุ้นกลุ่มธนาคารวานนี้
ทิศทางการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเห็นการเก็งกำไรรายตัวมากขึ้นในลักษณะ Earnings Play เนื่องจากกลุ่ม Real Sector จะรายงานผลประกอบการ 3Q59 หุ้นที่คาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดี เช่น CPF, GFPT, CPALL, HMPRO, BJC, SCC, BEM และ PTTGC
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของไทยในวันที่ 25 ต.ค. และ GDP 3Q59 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 28 ต.ค. คาด +2.1% yoy
Strategy of the Day
1. สะสม TMB : ราคาปิด 2.08 บาท ราคาเหมาะสม 2.50 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหารวานนี้ และคาดว่าทิศทางกำไรสุทธิ 4Q59 จะปรับตัวขึ้น qoq เนื่องจาก Credit Cost ลดลง และ NPL ใหม่แม้ยังเพิ่มขึ้นแต่มีทิศทางที่ชะลอตัวลง
b) คาดว่า Consensus จะเพิ่มมุมมองเชิงบวกขึ้น เนื่องจาก TMB ตั้งเป้า Credit Cost ปี 2560 จะไม่สูงกว่าปี 2559 ที่ 1.5% และคาดว่า NPL ของกลุ่มธนาคารน่าจะผ่านจุดสูงสุดในสิ้นปี 2559 และมีทิศทางลดลงในปี 2560
c) คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท เติบโต +23.9% yoy และราคาหุ้น Laggard โดย YTD -14% เทียบกับ SET BANK +14% และ SET INDEX +16% ซื้อขายที่ PBV2560 เพียง 1.0 เท่า เป็นระดับ -2SD สะท้อนให้เห็นว่า Downside Risk จำกัด และเชื่อว่าราคาหุ้นจะกลับมา Outperform กลุ่มธนาคารได้
2. เก็งกำไร KTB : ราคาปิด 17.50 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) รายงานกำไรสุทธิ 3Q59 ที่ 8.6 พันล้านบาท +61% yoy ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด 16% เนื่องจาก NIM ออกมาดี เพิ่มขึ้นเป็น 3.28% จาก 3Q58 ที่ 3.13% และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย +12% yoy และ 16% qoq
b) แม้การตั้งสำรองจะทรงตัว qoq ที่ 7.6 พันล้านบาท แต่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด ดังนั้น งบ 3Q59 ที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2559 ขึ้นจากเดิม 6% เป็น 3.3 หมื่นล้านบาท และคงประมาณการกำไรปี 2560 ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท
c) ซื้อขายที่ PBV2560 เพียง 0.8 เท่า และจุดเด่นอยู่ที่เงินปันผลในอัตราสูง เนื่องจากจ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2559 หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.2%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิ US$160.9 ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 320.5 ล้าน แต่กลับมาซื้อตลาดหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 8 วัน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาด
นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 8 วันทำ 1,223 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 2,557 ล้านบาท และส่งผลให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 121,407 ล้านบาท
Long สุทธิ SET50 Index Future เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน 2,733 สัญญา จากวันก่อนหน้าที่ 9,677 สัญญา ทำให้ยอด QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Short สุทธิลดลงเหลือ 34,073 สัญญา
และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้วันที่ 3 ติดต่อกันอีก 6,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิ 2,609 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 11,592 ล้านบาท ส่งผลให้ ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงวันที่ 6 ติดต่อกันเหลือ 2.093% จากวันก่อนหน้าที่ 2.094% แต่เริ่มมีการลดลงในอัตราที่ชะลอตัว
Short-Selling วานนี้
มูลค่า SBL ลดลงเหลือ 844.7 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 1,070 ล้านบาท ลดลง
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 1,907 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 487 ล้านบาท
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้กลับมาซื้อสุทธิ 1,907 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ ขายสุทธิ 487 ล้านบาท หุ้นกลุ่มที่ขายสุทธิสูงสุด ได้แก่ กลุ่มธนาคาร 1,002 ล้านบาท กลุ่มสื่อสาร 298 ล้านบาท กลุ่มอาหาร 248 ล้านบาท และกลุ่มที่ขายสุทธิ ได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมี 88 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง 26 ล้านบาท และกลุ่มเกษตร 7 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศออกมาเป็นกลาง
- ยอดขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 260k สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 246k และสูงกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ที่ 250k
- ยอดขายบ้านมือสอง เดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 3.2% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% mom สวนทางกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.9% mom
- ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ เดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% mom เท่ากับ Bloomberg consensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% mom สวนทางกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.2% mom
ยุโรป
การประชุม ECB คงนโยบายการเงิน: อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ -0.4% พร้อมคงวงเงิน QE ที่ 8.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนมี.ค. 2560 ทั้งนี้ ECB ยังคงประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวหรือต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย ณ ปัจจุบันในช่วงเวลาต่อไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่อายุโครงการ QE ที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค. 2560 อาจยืดเวลาออกไปได้หากจำเป็น และอาจเป็นเพราะผลอัตราเงินเฟ้อที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่ง ECB ยังคงให้น้ำหนักและติดตามอย่างใกล้ชิดในตัวแปรนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะยังไม่ถึงเป้าหมาย 2.0% ในระยะกลาง
ดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวลดลง : ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกันยายน อยู่ที่ระดับ Euro 23.6bn ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ Euro 31.5bn
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย : ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือระดับ 4.75% เป็นการปรับลดลง 0.25% เซอไพร้ตลาดที่คาดการณ์ไว้ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.0%
ไทย
กระทรวงคมนาคมเตรียมประมูลรถไฟทางคู่พร้อมกับประมูลสายสีส้ม : ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางได้แก่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,840.5 ล้านบาท ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,036.5 ล้านบาท และช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. วงเงิน 10,301.9 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ภายในวันที่ 25 ต.ค.2559 แต่หากไม่ทันก็จะเป็นในช่วงต้นเดือน พ.ย.2559
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 21 ต.ค. 2559
ข่าวเด่น