กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้สถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ 23,832 แห่ง ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ต่อใบอนุญาตดำเนินการปี 2560 ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 กรณีตั้งอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่วนที่กทม.ยื่นที่ศูนย์บริการธุรกิจสุขภาพ กรมสบส. จ.นนทบุรี เผยหากสถานพยาบาลขาดการต่อใบอนุญาตดำเนินการ จะมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรม สบส.ได้ดำเนินการควบคุมมาตรฐานสถานพยาบาลเอกชนทั้งคลินิกและโรงพยาบาล เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนให้ได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ ในปี 2559 นี้มีสถานพยาบาลเอกชนที่มีมาตรฐานและได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการทั่วประเทศ 23,832 แห่ง ประกอบด้วยคลินิก 23,488 แห่ง และโรงพยาบาล 344 แห่ง ในการติดตามกำกับสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตนั้น กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลทุกแห่ง ต้องยื่นชำระค่าธรรมเนียมทุกปีให้เป็นปีปัจจุบัน ยื่นต่อใบอนุญาตดำเนินการทุก 2 ปี และยื่นต่อใบอนุญาตประกอบกิจการทุก 10 ปี สำหรับในปี 2560 กรม สบส.กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่ง ยื่นชำระค่าธรรมเนียมรายปีภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2559 เพื่อแสดงว่าสถานพยาบาลมีการให้บริการที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน โดยในเขตกทม.ยื่นที่ศูนย์บริการธุรกิจสุขภาพ (One stop service center) กรมสบส. จ.นนทบุรี ส่วนในต่างจังหวัดยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งกรม สบส.กำหนดให้ติดหลักฐานที่กล่าวมานี้ในที่เปิดเผย แสดงให้ผู้ใช้บริการรับทราบและตรวจสอบเพื่อแสดงว่าสถานพยาบาลมีมาตรฐานเป็นไปตามกฎหมายกำหนด
ทางด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะกล่าวว่า สถานพยาบาลเอกชนที่ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ชำระค่าธรรมเนียมประจำปี ไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล ถือว่าเป็นการประกอบกิจการหรือดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพนักงานเจ้าหน้าที่อาจยึดหรืออายัดเอกสารสิ่งของที่เกี่ยวกับการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาลฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีด้วยก็ได้
สำหรับในรายที่ยื่นขอเปิดสถานพยาบาลใหม่ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับคำขอที่ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว จะดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานของสถานพยาบาล ซึ่งต้องมีครบ 5 มาตรฐานได้แก่ เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ได้มาตรฐาน มีบุคลากรที่ถูกต้องในการให้บริการ สถานที่สะอาด มีความปลอดภัย และมีลักษณะเหมาะสมในการเป็นสถานพยาบาล จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสถานพยาบาล เพื่อตรวจสอบรายละเอียด ความครบถ้วนตามมาตรฐาน หากผ่านขั้นตอนนี้ จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสถานพยาบาล เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยใช้เวลาประมาณ 66 วันทำการ
ข่าวเด่น