เพื่อเป็นการดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ในฐานะที่ทรงเป็น “กษัตริย์นักคิด นักพัฒนา” ผู้ประกอบการและนักออกแบบต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา “ความคิดสร้างสรรค์” ให้สอดรับกับกระแสยุคปัจจุบัน เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นมูลค่า โดยไม่ลืมรากฐานความเป็นไทยที่มีความได้เปรียบเป็นทุนเดิม เป็นหนึ่งในทางออกที่จะขับเคลื่อนประเทศไทย ได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการต่าง ๆ ภายในประเทศ ให้สามารถดึงความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์กับทุนทางวัฒนธรรมและสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ ให้มี “มูลค่า” สูงสู่สายตาประชาคมโลก โดยได้จัดทำนิทรรศการ “Baht & Brain” เพื่อนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของผู้ประกอบการ 5 กลุ่มธุรกิจที่สามารถนำความคิดสร้างสรรค์มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการได้ ได้แก่
1. กลุ่มเกษตรและอาหาร (Agriculture and Food) ประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านการเกษตรและอาหารติดอันดับต้น ๆ ของโลก เมื่ออาศัยความได้เปรียบด้านภูมิประเทศและภูมิอากาศเป็นทุนเดิม และทำการเพิ่มเติมนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยต่างๆเพื่อให้ผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มธุรกิจนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำให้ประเทศไทยสามารถทยานสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจเกษตรและอาหาร และกลายเป็น “แหล่งอาหารของโลก” จากผลผลิตท้องถิ่นที่มีมูลค่าและเป็นที่ต้องการระดับโลก โดยตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ที่ประยุกต์ใช้กับกลุ่มธุรกิจนี้และประสบผลสำเร็จ คือ สมาร์ทฟาร์ม ระบบเทคโนโลยีวิเคราะห์สภาพภูมิอากาศและอุตุนิยมวิทยาเพื่อกำหนดรูปแบบการเพาะปลูกที่เน้นเพิ่มผลผลิต และประหยัดทรัพยากรไปในเวลาเดียวกัน
2. กลุ่มหัตถกรรม (Craft) หนึ่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นจากศิลปวัฒนธรรมไทยที่กลายเป็นที่รู้จักระดับโลก โดยธุรกิจงานฝีมือและหัตถกรรมเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของงานออกแบบและงานศิลปะของไทย จึงเป็นแหล่งรวมของแรงงานสร้างสรรค์ที่มีมากกว่า 323,000 คนทั่วประเทศ (ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ) ฉะนั้นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดในการผลิตงานฝีมือ ทั้งในด้านการเพิ่มปริมาณการผลิต และสร้างความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ที่จะต่อยอดงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในปัจจุบันมากขึ้น และมีมูลค่าสูงขึ้นตามลำดับ ตัวอย่างความสำเร็จของนักออกแบบในกลุ่มนี้ อาทิ การผลิตผ้าทอจากเส้นใยสแตนเลส ที่นำเสนอความแปลกใหม่ และสามารถนำไปใช้ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ เสื้อผ้าดีไซน์แปลกใหม่ กระเป๋าถือป้องกันคลื่นรบกวน และวัสดุบุผนังป้องกันคลื่นรบกวน
3. กลุ่มบริการ (Service) กลุ่มธุรกิจบริการโดยเฉพาะการท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศ และประเทศไทยเป็นยังได้รับเลือกให้เป็น “เป้าหมายของการท่องเที่ยวระดับโลก” (World’s top travel destination) หากสามารถประยุกต์แนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน และใช้เทคโนโลยีเป็นตัวอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วโลก จะทำให้เกิดรายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ โดยตัวอย่างความสำเร็จ คือ แพลตฟอร์มทัวร์ชุมชน ที่เน้นวิเคราะห์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม และประสานงานกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับ ความเป็นไทยอย่างแท้จริง ด้วยความสะดวกและสบายไปในขณะเดียวกัน
4. กลุ่มไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) หนึ่งในธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในยุคปัจจุบัน ผ่านการถ่ายทอดวัฒนธรรมและวิถีความเป็นไทยสู่กิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ อาทิ การแสดงดนตรี ภาพยนตร์และแอนนิเมชั่น และรายการเกมโชว์ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงโลกให้สามารถเข้าถึงสารจากทั่วทุกมุมโลกผ่านอินเทอร์เน็ท กระจายกลิ่นอายความเป็นไทย และเปลี่ยนเป็นมูลค่าเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตัวอย่างสำเร็จในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ อาทิ การขายลิขสิทธิ์รายการเกมโชว์ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ วงดนตรีหมอลำที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก เดอะพาราไดซ์บางกอก (The Paradise Bangkok Molam International Band) และภาพยนตร์แอนนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จในเวทีนานาชาติจาก The Monk Studios
5. กลุ่มกีฬา (Sport) กีฬาไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “มวยไทย” เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก มีค่ายฝึกที่ขึ้นทะเบียนกับสภามวยโลกกระจายอยู่ใน 128 ประเทศทั่วโลก แต่ปัญหาหลักคือหลักสูตรขาดมาตรฐาน สภามวยไทยโลกจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานมวยไทยไอกล้าขึ้นเพื่อจัดทำหลักสูตรออนไลน์ (iGLA Muaythai Animation Education System - iMAES) ผ่านการประยุกต์นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้มวยไทย กลายเป็น “ทรัพย์สินทางปัญญาประจำชาติ” ที่ถ่ายทอดผ่าน หลักสูตรการสอนที่ได้มาตรฐานแบบออนไลน์ แอนนิเมชั่น และเกม ที่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของชาติ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จะเห็นได้ว่า ทั้ง 5 ธุรกิจข้างต้นล้วนเป็นธุรกิจที่ไทยมีความได้เปรียบเป็นทุนเดิมในด้านต่าง ๆ ทั้ง ความหลากหลายด้านกลุ่มเป้าหมาย และความหลากหลายทางประเภทธุรกิจ หากผู้ประกอบการและนักออกแบบสามารถคว้าโอกาส ใช้ความได้เปรียบประยุกต์เข้ากับแนวคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการอย่างทวีคูณ อันจะนำไปสู่การพาประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และสามารถรักษาพื้นที่การแข่งขันในยุคปัจจุบันได้อย่างประสบความสำเร็จ
ด้าน นางสาวจารุพัชร อาชวะสมิต นักออกแบบและพัฒนาสิ่งทอ กล่าวว่า ความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจการออกแบบสิ่งทอของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมเริ่มต้นขึ้น เมื่อครั้งได้รับโอกาสในการทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา เพราะได้สัมผัสกับมุมมองของความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศจากโครงการในพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อย่างมากมากมาย ได้เรียนรู้ถึงความเป็นนักพัฒนาที่ไม่มีวันหยุดของพระองค์ท่าน จึงตั้งมั่นว่าจะต้องใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านออกแบบสิ่งทอของตนเอง มาร่วมเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะทางด้านงานหัตถกรรม สนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของไทย อันจะนำไปสู่การสร้างงานและการกระจายรายได้อย่างยั่งยืนสู่ชุมชนตามรอยพระราชดำริ
นางสาวจารุพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับตัวให้สอดรับกับกระแสของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและอย่างรวดเร็วโดยยังคงตัวตนของท้องถิ่นไว้เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการพัฒนางานหัตถกรรมสิ่งทอ ความสร้างสรรค์และความแตกต่าง การทำความรู้จักและเปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเข้าไปพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จะทำให้หัตถกรรม
สิ่งทอของไทยสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น โดยกรณีตัวอย่างที่ตนได้พัฒนาขึ้น คือ การทอผ้าจากโลหะ ซึ่งมาจากไอเดียที่จะใช้วัสดุที่ก้าวข้ามความเชื่อเดิมๆ ก้าวข้ามการผลิตและการใช้งานเดิม ๆ และโลหะเป็นวัตถุดิบที่ความแข็งแกร่งแต่สามารถดึงให้กลายเป็นเส้นที่นิ่มนวลและเล็กได้ในระดับไมครอน มีความหรูหรามันวาว แต่สามารถผ่านกรรมวิธีการทำให้เป็นคราบ (patina) ให้ดูเก่าและดิบได้ และเป็นวัสดุที่มีระบบธุรกิจทั้งมหภาคและจุลภาครองรับการรีไซเคิลอย่างกว้างขวาง
จากแนวคิดดังกล่าว ตนได้เริ่มต้นทดลองจากการใช้ สแตนเลส ทองแดง ทองเหลือง และดีบุก โดยผ้าทอสแตนเลสนั้นมีความพิเศษคือ ใช้เส้นใยขนาดเล็กหน่วยเป็นไมครอน ทำให้ผ้าเบาโปร่งแสง และไม่ต้องใช้สารเคมีในการทำให้เกิดลายเลย เพราะลวดลายเกิดจากการให้ความร้อนที่ผิวเส้นใย ผ้าสแตนเลสมีผิวสัมผัสที่เรียบลื่นละเอียดคล้ายผิวสัมผัสของผ้าไหม สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการล้างและผึ่งให้แห้ง ไม่เกิดสนิม ส่วนเส้นใยโลหะชนิดอื่นๆ เช่น ทองแดง ทองเหลืองใช้กรรมวิธีที่ทำให้เกิดคราบ (patina) เป็นตัวทำให้เกิดลาย ผลงานเหล่านี้อยู่ภายใต้แบรนด์ Ausara Surface ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักออกแบบตกแต่งภายใน นำไปใช้ในการตกแต่งโรงแรม คอนโดมิเนียม สนามกอล์ฟและบ้านพักอาศัยทั้งในประเทศไทย เอเซียและยุโรป
นางสาวจารุพัชร กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า หากผู้ประกอบการและนักออกแบบไทยมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง ไม่หยุดอยู่กับที่ เปิดใจรับนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ จะสามารถพัฒนาธุรกิจ ด้วยการเปลี่ยนมันสมองและภูมิปัญญาไทยให้กลายเป็น จุดเด่น และเป็นที่ยอมรับในสายตาคนทั่วโลกได้
ข่าวเด่น