สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 25 ตุลาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 25 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,262.00-1,270.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,050 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 25/10/16)
แนวโน้มวันที่ 26 ตุลาคม 2559
ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2559 โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งระหว่างช่วงนี้จนถึงช่วงสิ้นปี 2560 ตราบใดที่การคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อและตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกเพิ่งส่งสัญญาณในวันศุกร์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คก็ส่งสัญญาณแบบเดียวกันในวันพุธที่ 19 ตุลาคม
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งยังคงสร้างแรงขายทองคำออกมาเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกในช่วงที่ผ่านมาและความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟด สนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว โดยเทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาส 74% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ขณะที่ราคาทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม หลังจากสกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจจะขยายระยะเวลาในการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเปิดโอกาสสำหรับการพิจารณาทางเลือกหลายทางในการกำหนดนโยบายทำให้นักลงทุนคาดว่า อีซีบีจะไม่ปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ ส่งผลให้สกุลเงินยูโรจะปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการร่วงลง 0.95 % เมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม
เบื้องต้นยังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,276-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,260-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,260-1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway Up โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,276-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,254 (20,720บาท) 1,245 (20,570บาท) 1,233 (20,370บาท)
แนวต้าน 1,276 (21,090บาท) 1,283 (21,200บาท) 1,294 (21,390บาท)
ข่าวเด่น