หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งในกรอบแคบ ด่าน 1,510 จุด ยังไม่สามารถผ่านได้ เกิดแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคาร และหุ้นหลักที่ขึ้นมาเด่นในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มขนส่งยังคงเด่น เช่น BEM, CPALL, BJC เป็นต้น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเป็นวันที่ 2 อีก 6.10 จุด มาอยู่ที่ 1,506.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 47,447 จุด
ทั้งนี้ต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 573 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures 1,199 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อก 8,238 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยหนาแน่น
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดต่ำกว่า US$50/barrel วันแรกในรอบ 15 วันทำการ
เช้านี้เงินบาทแข็งค่าหลุด 35.00 บาท/US$ แล้ว (8.02 น.)
บ่ายวันนี้ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย.ของไทย Bloomberg consensus คาด -1.3% yoy จากเดือนก่อนหน้า +6.5% yoy
ติดตามการประกาศงบ 3Q59 ของ SCC หลังปิดตลาดเช้าวันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 22)
SET INDEX มีโอกาสปิดบวกเป็นวันที่ 3 ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย. ว่าจะออกมาเป็นบวกสวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด -1.5% yoy เป็นเดือนที่ 2 ได้หรือไม่ รวมถึงผลการดำเนินงาน 3Q59 ของ SCC ที่จะประกาศหลังปิดตลาดรอบเช้าวันนี้ เราประเมินกำไรสุทธิ 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% yoy หากออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนในรอบบ่ายจะกลับมาเป็นกลางถึงบวก และผลักดันให้ SET INDEX ทดสอบด่าน 1,515-1,520 จุดได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเชิงกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนำให้นักลงทุน “ทยอยขายทำกำไรบางส่วน” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพราะประเมิน Upside ในช่วงสั้นค่อนข้างจำกัด SET INDEX ดีดตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็วภายในช่วง 8 วันทำการเท่านั้น ประเมินกรอบแกว่งวันนี้ระหว่าง 1,500-1,520 จุด
เราประเมิน SET INDEX จะเริ่มลดช่วงบวกลง และเกิด Sector Rotation กลุ่มที่ขยับขึ้นเด่นในรอบนี้กลับเป็น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มขนส่ง / กลุ่มค้าปลีก จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรมากขึ้น และหมุนเข้าสู่กลุ่มหลักถัดไปอย่าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มท่องเที่ยว / กลุ่มโรงพยาบาล ผลการดำเนินงานเด่นในช่วง 2H59 รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่จะทยอยฟื้นตัว
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BA: ราคาปิด 24.00 บาท ราคาเหมาะสม 28.00 บาท
a) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับฐานลงหลุดแนว US$50/barrel น่าจะเป็นปัจจัยจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มสายการบิน ต้นทุนหลักมาจากราคาน้ำมัน
b) แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BA ใน 3Q59 และต่อเนื่องไปอีก 2 ไตรมาสข้างหน้าจะเป็น High Season เร็วกว่าสายการบินอื่น เพราะเส้นทางเกาะสมุย ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักของ BA เริ่ม High Season ใน 3Q59 อีกทั้งการเปิดเส้นทางบินใหม่ กทม.-ดานัง เวียดนาม ได้รับการตอบรับเชิงบวก
c) เราประเมินว่า BA เป็นสายการบินที่ได้รับผลกระทบจำกัด จากกรณีทัวร์ศูนย์บาทและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง เพราะฐานลูกค้าหลักจะเป็นชาติตะวันตก และคนไทย
d) ปัจจัยทางเทคนิก ราคาหุ้นมีโอกาสขยับขึ้นปิด Gap บริเวณ 25 บาท
2. สะสม PS : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสม 34.50 บาท
a) PS ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลงไปแล้วทั้งสิ้น 12.45% เทียบกับกลุ่มอสังหาฯ +6.08% สะท้อนภาพผลการดำเนินงาน 3Q59 ที่แนวโน้มอ่อนแอ ประเมินกำไรสุทธิ 1.13 พันล้านบาท ลดลง 31% yoy และ 41% qoq ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ไปมากแล้ว
b) รวมถึงขั้นตอนการแปลงหุ้น PS เป็น PSH ในช่วงนี้จนถึงปลายเดือนพ.ย. และจะหยุดการซื้อขายระหว่างวันที่ 24-30 พ.ย. ก่อนจะกลับมาซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค. ฐานะ Holding Company
c) ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER17 ต่ำเพียง 6.54x ต่ำกว่า LH – QH ที่ 13.96x และ 7.58x เทียบกับการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2560 ของ PS ที่สูงถึง 17% และผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 7.5% ต่อปี สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ ที่ MBKET วิเคราะห์อยู่ในปัจจุบัน
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิอีกเล็กน้อย US$14 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$52 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเพียงเล็กน้อย
นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 573 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 1,120 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 120,288 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นั้นนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 1,199 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short อีกครั้ง เมื่อ S50Z16 เปิดสูงกว่า SET50 Index เท่ากับ 0.64 จุด ส่งผลให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Short สุทธิลดลงเป็น 8,506 สัญญา
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงเลือกพักเงินในตลาดตราสารหนี้ ด้วยการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 8,238 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ซื้อสุทธิ 21,490 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเร่งตัวขึ้นเป็น 1.44bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.57bps ปิดที่ 2.114%
Short-Selling วานนี้
ยอดรวมลดลงเหลือ 552 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 572 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 44 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 แต่ชะลอตัวจากวันก่อนหน้า พร้อมกระจายใน 3 กลุ่มหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 622 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,666 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 4,195 ล้านบาท โดยเน้นสะสมกลุ่มพลังงาน 185 ล้านบาท กลุ่ม ICT 179 ล้านบาท และกลุ่มอาหาร 133 ล้านบาท ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้างถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 90 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวก
- ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด +0.5% mom และเดือนก่อนหน้า +0.5% mom เป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2558
- ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองหลัก เดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% mom เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% mom โดยราคาบ้าน 14 ใน 20 เมือง เพิ่มขึ้น mom ขณะที่เดือนก่อนหน้ามี 13 เมือง
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนต.ค. เท่ากับ 98.6 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 101.0 จุด และเดือนก่อนหน้า 103.5 จุด เป็นผลจากการประเมินภาพรวมธุรกิจ ณ ระดับปัจจุบัน และแนวโน้มค่อนข้างอ่อนแอ ส่งผลให้มุมมองต่อการจ้างงานในอนาคตกลับมาเป็นลบอีกครั้ง
ยุโรป
การเจรจาระหว่างอียู และ แคนาดาในการกำหนดเขตการค้าเสรี ล้มเหลว: การเจรจาระหว่างอียู และแคนาดา จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่สามารถหาข้อสรุปได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจแคนาดายังคงต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อไป รวมถึงจะสร้างเงื่อนไขที่ซับซ้อนให้แก่แคนาดาในการเจรจาการค้ากับประเทศอื่นๆ เช่นอินเดีย หรือจีน
ธนาคารขนาดใหญ่ของอิตาลียื่นแผนธุรกิจและการเพิ่มทุนแล้ว: ธนาคาร Monte dei Paschi di Siena เตรียมเปิดเผยแผนการเพิ่มทุน และแผนธุรกิจ โดยที่ปรึกษาเสนอแผนที่จะขายหนี้เสีย 2.8 หมื่นล้านยูโร แผนเบื้องต้นการเพิ่มทุนจะมีวงเงิน 3.5 พันล้านยูโร แบ่งเป็น 2.5 พันล้านยูโร ขายให้แก่ Private equity fund และอีก 1.0 พันล้านยูโร ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร นอกจากนี้ เสนอแผนให้ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ 5.0 พันล้านยูโรของธนาคารสามารถแปลงเป็นทุน แต่อัตราส่วนการแปลงสภาพยังไม่มีการเปิดเผย
อียูให้เงินช่วยเหลือรอบที่ 3 แก่กรีซ: ผ่านโครงการ ESM วงเงิน 2.8 พันล้านยูโร หลังกรีซปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกับทางอียู ทั้งในส่วนขอการปฎิรูปกองทุนบำเหน็จบำนาญ, การกำกับดูแลสถาบันการเงิน, การจัดเก็บรายได้ และธุรกิจพลังงาน หากกรีซดำเนินตามแผนที่ตกลงกับเจ้าหนี้ได้ เชื่อว่าเศรษฐกิจกรีซจะเติบโตก้าวกระโดดในปีหน้า และรัฐบาลจะสามารถกลับมาออกขายพันธบัตรในตลาดรองได้ในปีหน้า
จีน
จีนประเมินผลกระทบต่อเงินหยวนหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปอย่างจำกัด: หัวหน้าเศรษฐกรของธนาคารกลางจีน ประเมินว่าเฟดมีความเป็นไปได้สูงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อค่าเงินหยวนในวงจำกัด และคาดว่าค่าเงินหยวนจะฟื้นตัวหลังจากที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริง เพราะเชื่อว่าเฟดจะไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อยางต่อเนื่อง
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ครม.อนุมัติโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน 1.8 หมื่นล้านบาท: ครม.เห็นชอบโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ระยะที่ 2 โดยจัดสรรงบกลาง ปี 60 วงเงิน 18,760 ล้านบาท ให้กับ 74,655 หมู่บ้านทั่วประเทศ แห่งละ 250,000 บาท เพื่อนำไปพัฒนาและส่งเสริมความเข้มแข็ง ด้วยการนำเงินก้อนดังกล่าวไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บ้าน หรือนำไปใช้ในกิจการที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา และส่งเสริมการประกอบอาชีพของคนในชุมชน โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ย. 59 ถึงเดือน ม.ค. 60
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 26 ต.ค. 2559
.jpg)
ข่าวเด่น