สหภาพยุโรปปรับกฎระเบียบว่าด้วยอาหารใหม่หรือโนเวลฟู้ด เตรียมประกาศใช้ในปี 2561 เพิ่มรายการอาหารพื้นบ้าน และแมลงกินได้ เป็นโอกาสทองของเกษตรกรผู้เลี้ยงแมลงเมืองไทยส่งแมลงขายตลาดอียู
นายพิศาล พงศาพิชณ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำ ประเทศไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดโครงการสัมมนา เรื่อง “กฎระเบียบอาหารใหม่ของสหภาพยุโรป” โดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรมหลัก คือ การจัดสัมมนาในรูปแบบการบรรยายและการอภิปราย ในหัวข้อ “เจาะลึกระเบียบอาหารใหม่อียู: ปูทางตลาดสินค้าเกษตรไทย” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว กรุงเทพฯ และการจัดสัมมนากลุ่มย่อยในรูปแบบการบรรยายในเรื่อง “โอกาสทองจิ้งหรีดไทยไปอียู : แมลงเศรษฐกิจเปลี่ยนโลก” การศึกษาดูงานนอกสถานที่ ณ ฟาร์มจิ้งหรีด ณ จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 27 ตุลาคม 2559
โดยกลุ่มเป้าหมายการจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในกระบวนผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดและแมลงชนิดอื่นๆ อาจารย์และนักวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในกระบวนผลิตสินค้าเกษตรและอาหารส่งออก รวมทั้งสิ้นประมาณ 300 คน สหภาพยุโรปได้ปรับกฎระเบียบว่าด้วยอาหารใหม่หรือโนเวลฟู้ด (Novel Food) จากระเบียบฉบับเดิมที่ใช้มานานกว่า 19 ปี ซึ่งส่วนที่แก้ไขและเป็นประโยชน์กับเกษตรกรไทยคือ เพิ่มรายการอาหารพื้นบ้าน และแมลงกินได้ รวมถึงเพิ่มรายการอาหารที่มีส่วนประกอบจากวัสดุนาโน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 โดยกฎระเบียบว่าด้วยอาหารใหม่ หรือโนเวลฟู้ดนี้มีครอบคลุมอาหารที่ไม่เคยมีการบริโภคในสหภาพยุโรปก่อนวันที่ 15 พฤษภาคม 2540
สำหรับการประกาศใช้ระเบียบโนเวลฟู้ดของสหภาพยุโรปฉบับใหม่นี้ จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงแมลงของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันแมลงกินได้ที่มีการทำฟาร์มเลี้ยงและมีปริมาณการผลิตสูง คือ จิ้งหรีด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเสริมการผลิตและผลักดันเปิดตลาดในสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ จากประเด็นดังกล่าว มกอช.จึงประสานสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทย เชิญผู้เชี่ยวชาญของสหภาพยุโรปมาให้ความรู้และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับระเบียบโนเวลฟู้ดฉบับใหม่นี้ให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 300 คน ได้รับทราบและเข้าใจในแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจนมากขึ้น
“ที่ผ่านมา สินค้าไทยเคยได้รับผลกระทบจากเรื่องระเบียบโนเวลฟู้ดฉบับเดิม และประสบปัญหาการนำเข้าที่ประเทศสเปน ได้แก่ หน่อไม้กระป๋องและผิวมะกรูดในเครื่องแกงเขียวหวาน แห้วในติ่มซำ และน้ำมันงาในผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งกว่าที่ปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยและสามารถส่งออกได้ตามปกติ ต้องใช้เวลาแก้ไขนานพอสมควร จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่การผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ จะได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญสหภาพยุโรป เพื่อคลี่ปมปัญหาหรือข้อสงสัยจากการตีความกฎระเบียบ และแนวทางการยื่นขออนุญาตและขึ้นทะเบียนอาหารใหม่เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป รวมถึงการจัดทำมาตรฐานฟาร์มและการประเมินความเสี่ยงความปลอดภัยอาหาร ซึ่งจะทำให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรปได้ถูกต้อง ขณะเดียวกันยังช่วยพัฒนาเครือข่ายเกษตรกรและผู้ประกอบการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แมลง เพื่อสร้างอำนาจการเจรจาต่อรองและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดสหภาพยุโรป พร้อมส่งเสริมประชาสัมพันธ์และจับคู่ธุรกิจเพื่อขยายช่องทางการตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์แมลง ซึ่งจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรของไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นต่อไป”นายพิศาล กล่าว
ด้านนายแพทริค เดอร์บอยเซอร์ ทูตด้านสุขภาพและความปลอดภัยของอาหารสหภาพยุโรปประจำประไทย ได้กล่าวว่า กฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับอาหารของสหภาพยุโรปที่ผลิตขึ้นด้วยนวัตกรรมใหม่” จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเอื้อแก่ภาคธุรกิจในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ด้านอาหารออกสู่ตลาดโลก และยังเป็นการรับรองระดับความปลอดภัยของอาหารแก่ผู้บริโภคด้วย
ภาพ
แจงระเบียบอียู : นายพิศาล พงศาพิชณ์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด การสัมมนาเรื่อง“เจาะลึกระเบียบอาหารใหม่อียู: ปูทางตลาดสินค้าเกษตรไทย” ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับ สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำ ประเทศไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดขึ้น เพื่อให้ผู้ปะกอบการไทย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญสหภาพยุโรป และแนวทางการยื่นขออนุญาตและขึ้นทะเบียนอาหารใหม่เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ข่าวเด่น