เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลม “โค้ก” ปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำอัดลมชนิดขวดแก้วขนาด 250 มิลลิลิตร (มล.) จาก 10 บาท เป็น 12 บาท ว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ตรวจสอบเหตุผลการปรับขึ้นราคามาจากสาเหตุอะไร เพราะน้ำอัดลม แม้จะเป็นสินค้าในการติดตามดูแล และการปรับขึ้นราคาให้ทำเพียงแค่แจ้งการปรับราคามายังกรมฯก่อน 15 วัน แต่ต้องยอมรับว่าน้ำอัดลม เป็นสินค้าที่คนบริโภคกันเป็นจำนวนมาก ก็ต้องดูเหตุผลกันก่อน
“กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ตอบผู้ผลิตว่าจะให้ขึ้นราคาหรือไม่ให้ขึ้น เพราะฉะนั้น แม้จะมีการปรับขึ้นราคาไปแล้ว หากเหตุผลการขอขึ้นไม่เหมาะสม ก็อยากจะบอกว่า ขึ้นได้ ก็ต้องลงได้”
ด้าน นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯได้ให้ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้ก ทำหนังสือแจ้งเหตุผลการปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำอัดลมชนิดขวดแก้วขนาด 250 มิลลิลิตร จาก 10 บาทเป็น 12 บาทมายังกรมฯ แล้ว โดยขอให้ชี้แจงเหตุผลการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้อย่างชัดเจน ถ้าอธิบายเหตุผลไม่ได้ ก็ไม่มีเหตุอันควรที่ต้องปรับขึ้นราคา ซึ่งขณะนี้ทราบว่าผู้ผลิตกำลังนำเรื่องไปหารือกับผู้บริหาร และนัดหมายที่จะแจ้งกลับมายังกรมฯ ไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิต “โค้ก” ได้ทำหนังสือชี้แจงผ่านทางสื่อมวลชนว่า บริษัทได้ให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายในเป็นอย่างดีในการตรึงราคาผลิตภัณฑ์มาตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยปรับราคาครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2549 แต่จากการแบกรับต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงตัดสินใจปรับราคาเฉพาะเครื่องดื่มอัดลมแบบขวดแก้ว ขนาด 250 มล. จาก 10 บาท เป็น 12 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.59 เป็นต้นมา มิได้เพิ่งปรับขึ้นในช่วงนี้แต่อย่างใด และเป็นการปรับราคาเพียงขนาดบรรจุภัณฑ์เดียว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% ของยอดขายทั้งหมด อีกทั้งขนาดบรรจุภัณฑ์นี้ส่วนใหญ่จำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ซึ่งเป็นตลาดที่มีทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคหลากหลายอยู่แล้ว
ข่าวเด่น