หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ปรับฐานลงหลุดแนว 1,500 จุด หลังราคาน้ำมันดิบหลุดแนว US$50/barrel บรรยากาศรอบเอเชียเผชิญกับแรงขายทำกำไร อีกทั้งงบ 3Q59 ของ SCC ใกล้เคียงคาด ทำให้ขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 14.35 จุด มาอยู่ที่ 1,492.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 46,358 จุด
ทั้งนี้ต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 1,068 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 5,625 สัญญา แต่คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 อีก 3,416 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย.ของไทย +3.4% yoy สวนทางกับที่ตลาดคาด
- ติดตามการประชุมประจำปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 27-28 ต.ค.
- ติดตามการประกาศงบ 3Q59 ของ PTTEP วันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 23)
ตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะการปรับฐานตามที่เราประเมินก่อนหน้า เมื่อผลการดำเนินงานหุ้นที่ไม่ใช่ธนาคารออกมาใกล้เคียงคาด ทำให้ขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนการไต่ระดับของ SET INDEX มูลค่าการซื้อขายกลับมาเบาบางเพียง 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน อีกทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติที่กลับมาชะลอตัวต่อเนื่อง สะท้อนบรรกาศการลงทุนกลับมาเป็น “กลาง”
แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย.ของไทยขยายตัว 3.4% yoy สวนทางกับที่ตลาดคาด -1.3% yoy ก็ตาม แต่ตลาดกลับไม่ตอบรับในเชิงบวก อาจเป็นเพราะว่า Valuation ของตลาดหุ้นไทย ณ วันนี้ค่อนข้างตึงตัว PER17 เท่ากับ 14.03x เทียบกับ 1Yr Forward PER ระดับ +1SD เฉลี่ย 2 ปีที่ผ่านมา 13.97x
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงยืนยันให้นักลงทุน “ขายทำกำไรบางส่วน” ในหุ้นหลัก และกลับไปเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว หรือผลการดำเนินงานใน 3Q59 เติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq เป็นทางเลือกในช่วงสั้นๆ นี้ ประเมินกรอบแกว่ง 1,480-1,505 จุด
สำหรับปัจจัยสำคัญต่างประเทศช่วงนี้ แนะนำให้ติดตามผลการประชุมประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร TPOLY: ราคาปิด 3.34 บาท ลุ้นทะลุแนว 3.40 บาท
a) แม้ว่า MBKET จะไม่ได้วิเคราะห์ทางด้านปัจจัยพื้นฐานของหุ้นดังกล่าว แต่เรามีการวิเคราะห์เชิงปัจจัยพื้นฐานในบริษัทลูกคือ TPCH ซึ่ง TPOLY ถือในสัดส่วน 41.26%
b) แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TPCH ใน 4 ไตรมาสข้างหน้า นับตั้งแต่ 3Q59 เป็นต้นไป จะเติบโต qoq ด้วยการทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 9.2MW ใน 3Q59 / 9.2MW ใน 4Q59 และ 23MW ใน 2Q60
c) หากเทียบราคาปิดของหุ้น TPCH ที่ 19.00 บาท คำนวณกลับมายังเป็น NAV ที่ TPOLY เท่ากับ 5.55 บาท ขณะที่ราคาหุ้น TPOLY ต่ำเพียง 3.34 บาทหรือ Discount มากถึง 40% เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเป็นการ “Switch” จาก TPCH เข้า TPOLY จะได้ต้นทุนที่ถูกกว่าการลงทุนทางตรง
d) สัญญาณทางเทคนิกจะกลับมาเด่นมากขึ้น หาก TPOLY ทะลุแนว 3.40 บาท
2. ซื้อเมื่ออ่อนตัว BJC : ราคาปิด 50.75 บาท ราคาเหมาะสม 52 บาท
a) MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q59 จะเติบโตสูงทั้ง yoy และ qoq จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนราว 1 พันล้านบาท หลังชำระหนี้สกุลยูโร ขณะที่ Norm Profit คาดว่าจะเติบโต yoy และ qoq เช่นกัน เป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจของ BIGC ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากการคืนหนี้ระหว่างไตรมาส
b) มี Catalyst รออยู่ เนื่องจากคาดว่ามีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand ซึ่งจะประกาศในช่วงวันที่ 15 พ.ย.ตามเวลาประเทศไทย
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +85.6% yoy เป็น 6,589 ล้านบาท ขยายตัวสูงสุดในกลุ่มค้าปลีก ภายใต้ PEG17 ที่ต่ำสุดในกลุ่ม 0.36x เทียบกับ CPALL 1.83x, GLOBAL 2.23x และ HMPRO 2.27x
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาขายสุทธิ US$273 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$14 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 1,068 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 2,188 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 119,219 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นั้นนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิอีกครั้งมากถึง 5,625 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง กดดันให้ S50Z16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.62 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.64 จุด ส่งผลให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 14,131 สัญญา
ทั้งนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงเลือกพักเงินในตลาดตราสารหนี้ ด้วยการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 อีก 3,416 ล้านบาท รวม 6 วันทำการ ซื้อสุทธิ 24,906 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.06bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.44bps ปิดที่ 2.114%
Short-Selling วานนี้
เพิ่มขึ้นเป็น 809 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 552 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเช่นกันเป็น 58 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 44 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิลดลงอีกเหลือเพียง 77 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 622 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 4,272 ล้านบาท โดยเน้นสะสมกลุ่มอาหาร 196 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร 164 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ 130 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 213 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก 139 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลฃเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงบวก
ดุลการค้าเดือนก.ย. ขาดดุล US$5.61 หมื่นล้าน ดีกว่า Bloomberg consensus คาดขาดดุล US$6.05 หมื่นล้าน และเดือนก่อนหน้าขาดดุล US$5.92 หมื่นล้าน โดยส่งออกเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 0.9% mom นอกจากนี้การนำเข้ายังหดตัว 1.1% mom
ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนต.ค.เท่ากับ 54.8 จุด ดีกว่า เดือนก่อนหน้า 51.9 จุด เป็นการเพิ่มขึ้นที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ คำสั่งซื้อใหม่ทำระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่กิจการการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้ยังอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง
ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. เท่ากับ 5.93 แสนหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 6.01 แสนหลัง แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 5.75 แสนหลัง ขณะที่ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 6.7% mom เป็น US$313,500 เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ยุโรป
เบลเยี่ยมยังคงไม่สนับสนุนแผนเขตการค้าเสรีระหว่างอียู – แคนาดา: สส.ของเบลเยี่ยมเริ่มการหารือวันที่ 26 ต.ค. เพื่อหาแนวทางในการที่จะยกเลิกการเจรจาการค้าเสรี แม้ว่านายกฯ แคนาดาจะเดินทางมายังกรุงบรัสเซล เพื่อหารือกับอียูในวันที่ 27 ต.ค.นี้ก็ตาม
นายกฯ สเปนจะเผชิญกับการโหวตรับรองวันที่ 27 ต.ค.นี้: เป็นการโหวตครั้ง 2 ของนายกฯ โดยจะต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมอื่นๆ เพราะพรรคการเมืองของนายกฯ Rajoy ครองเสียงในสภาเพียง 137 จาก 350 ที่นั่ง
ฝรั่งเศสเสนอเป็นศูนย์กลางของหน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร หลัง Brexit: รัฐบาลฝรั่งเศส ได้เสนอให้ปารีสเป็น Candidate ของการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของอียู (European Banking Authority) หลัง Brexit ทำให้ลอนดอนไม่ได้เป็นสมาชิกในกลุ่มอียู ทั้งนี้มีเมืองที่เสนอตัวเองเป็นที่ตั้งคือ Lyon, Strasbourg และ Lille
จีน
ธนาคารกลางจีนเตรียมเข้าดูแลหนี้นอกงบดุลของสถาบันการเงิน: ธนาคารกลางจีน จะออกมาตรการ Macro Prudential Assessment (MPA) เพื่อเป็นเครื่องมือในการประเมินความเสี่ยงอย่างกว้าง ซึ่งจะใช้กำกับดูลผลิตภัณฑ์ของ Wealth management ที่ขายโดยธนาคารพาณิชย์ checks of loans, เงินลงทุนในตราสารหนี้, เงินลงทุนในตราสารทุน, สัญญาซื้อคืนสินทรัพย์ทางการเงิน, เงินฝากในบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ถูกนับรวมอยู่ในงบดุลของธนาคา จะถูกนำมากำกับดูแลให้มากขึ้น
ดัชนี Consumer sentiment เดือนต.ค.ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน: เท่ากับ 117.1 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ 115.2 จุด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะมีการใช้จ่ายที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าคงทน
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
สศค.เผยเศรษฐกิจเดือนก.ค.ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป: สศค. เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2559 สะท้อนการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง และรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวส่วนหนึ่งมาจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้ายังคงหดตัว สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปทานปรับตัวดีขึ้นจากภาคเกษตรกรรมที่ขยายตัวเป็นบวก และภาคการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัวในเกณฑ์สูงได้อย่างต่อเนื่อง
ส่งออกเดือนก.ย.สูงสุดในรอบ 2 ปี: กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.ย. 2559 มีมูลค่า 1.94 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 23 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2557 เพิ่มขึ้น 3.43% yoy เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองในรอบปีนี้ ส่วนการนำเข้าเดือน ก.ย. 2559 มีมูลค่า 1.69 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.57% yoy ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า มูลค่า 2,545 ล้านเหรียญสหรัฐ หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและทองคำออกไป การส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.ย. 2559 ขยายตัว 5.0% yoy ทั้งนี้การส่งออกไทยขยายตัวดีทุกตลาด โดยเฉพาะสหภาพยุโรป จีน สหรัฐ และญี่ปุ่น ยกเว้นตะวันออกกลางที่ยังคงหดตัว และการขยายตัวของสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.2% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 27 ต.ค. 2559
ข่าวเด่น