หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 28 ต.ค. 2559 ราคาน้ำมันดิบดีดตัวหลังท่าทีในการลดกำลังการผลิตของโอเปกมีความชัดเจนขึ้น
(+) ราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังท่าทีของซาอุดิอาระเบียและกลุ่มโอเปกในการจำกัดเพดานการผลิตมีความชัดเจนขึ้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซียว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกมีความประสงค์ที่จะลดกำลังการผลิตลงประมาณร้อยละ 4จากระดับการผลิตที่สูงที่สุดของกลุ่ม
(+) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลที่เปิดเผยโดย Genscape ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ได้ปรับตัวลดลง 650,000บาร์เรลเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
(-) แม้ว่ากลุ่มโอเปกได้ออกมาแสดงเจตจำนงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง แต่ทางด้านนาย JabarAlialLuaibiรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอิรัก ผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับที่สองในกลุ่มโอเปก ได้ออกมาแถลงว่า อิรักไม่มีความประสงค์ที่จะลดกำลังการผลิตลง และขอเป็นประเทศยกเว้นร่วมกับลิเบีย ไนจีเรีย และอิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ หรือได้รับการคว่ำบาตรในอดีตเนื่องจากอิรักต้องการเงินทุนจำนวนมากจากการค้าขายน้ำมันดิบเพื่อใช้ในการทำสงครามกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS
(-) นาย Fayadh al-Nema รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอิรักเปิดเผยว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบของอิรักได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8 ล้านบาร์เรล และยอดการส่งออกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน โดยปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ท่อส่งน้ำมันดิบ Kurdishกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากต้องปิดทำการไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาระหว่างรัฐบาลกรุงแบกแดดและรัฐบาลท้องถิ่นของ Kurdish (KRG)
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินในเอเชียได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันเบนซิน U.S. RBOB ที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าน้ำมันเบนซินจากภูมิภาคเอชียตะวันออกจะไม่สามารถส่งไปยังตะวันออกกลางได้เนื่องจากไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่อุปสงค์ในภูมิภาคยังคงทรงตัวในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดี อุปทานภายในภูมิภาคเอเชียยังคงมีมากจากการที่ค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง เป็นผลให้โรงกลั่นยังคงเดินหน้าผลิตน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งยอดการส่งออกในเดือนกันยายนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.6ล้านตัน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ47-52เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 -29 ต.ค. ที่เมืองเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับเพดานปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศในกลุ่มโอเปก และระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต พร้อมกันนี้ กลุ่มโอเปกจะเชิญผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 21ต.ค. ปรับตัวลดลง 0.5ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 1 -2 พ.ย. นี้ ว่าเฟดจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วนี้หรือไม่ โดยตลาดคาดว่าในการประชุมครั้งนี้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดจะเป็นการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 28 ต.ค. 2559
ข่าวเด่น