ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงานให้เช่าภายในโครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ และโครงการเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 31 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่า 5,475 ล้านบาท
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2559
TPRIME เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อผู้ลงทุนระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2559 จำนวน 547.50 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 5,475 ล้านบาท โดยมีบริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เป็นทรัสตี บริษัท แกรนท์ ธอนตัน เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์
TPRIME ลงทุนในกรรมสิทธิโครงการเอ็กเชน ทาวเวอร์ โดยถือหุ้นไม่น้อยกว่า 99.99% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เอ็กเชน ทาวเวอร์ จำกัด และสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโครงการเมอร์คิวรี่ทาวเวอร์ ระยะเวลา 19 ปี สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2578 ทั้ง 2 โครงการมีพื้นที่ให้เช่าทั้งส่วนของสำนักงานและพื้นที่ร้านค้ารวมทั้งสิ้น 67,653 ตารางเมตร โดยมีผู้เช่าทั้งบริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติในหลากหลายธุรกิจ ในอัตราการเช่ามากกว่า 97%
นายสุชาติ เจียรานุสสติ กรรมการบริหาร บริษัท เอสซีซีพี รีทส์ จำกัด เปิดเผยว่า TPRIME มีจุดเด่นคือการผสมผสานระหว่างกองทรัสต์ที่ประกอบด้วย กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (Freehold) และ สิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) อยู่ในกองเดียวกัน ซึ่งโครงการที่ TPRIME เข้าไปลงทุนทั้ง 2 โครงการ ถือว่าเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ตั้งอยู่ในเขตศูนย์กลางย่านธุรกิจที่แวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน เชื่อมต่อแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงทำให้มีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูง และเชื่อว่าด้วยศักยภาพของอาคารและทำเลที่ตั้งที่สะดวกต่อการเดินทาง ผนวกกับความเป็นมืออาชีพในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ จะช่วยเพิ่มมูลค่าของการลงทุน และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์
TPRIME มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยหลัง IPO ผู้ถือหน่วยทรัสต์รายใหญ่ของ TPRIME 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยทรัสต์ 21.00% บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยทรัสต์ 9.13% และ
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหน่วยทรัสต์รายละ 7.31%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของทรัสต์ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของทรัสต์ที่ www.tprimereit.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
ข่าวเด่น