พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าขณะนี้ระดับน้ำในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.เมืองและ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี อ.ไชโย และ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ลดลงต่ำกว่าตลิ่งและเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เนื่องจากกรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ท่านนายกรัฐมนตรี สั่งการให้แต่ละจังหวัดเร่งฟื้นฟูสภาพพื้นที่หลังน้ำท่วม พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและเกษตรกรอย่างเต็มที่ตามระเบียบทางราชการ และยังได้กำชับให้ กษ. วางแผนจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชในฤดูแล้งปี 2559/60 ที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ให้รอบคอบรัดกุม หลังจากที่ได้เก็บกักน้ำบางส่วนไว้ในระบบชลประทานค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว”
พลโท สรรเสริญฯ กล่าวต่อว่า ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาล่าสุด เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีน้ำเต็มอ่าง เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำในอ่างร้อยละ 80 ของความจุ และเขื่อนภูมิพลมีน้ำร้อยละ 50 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งหมด 9,600 ล้าน ลบ.ม. เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และการรักษาระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
“สำหรับพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ยังมีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมขังบางจุดนั้น กรมชลประทานได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนและทะเลตามลำดับ รวมทั้งเพิ่มการรับน้ำผ่านคลองชัยนาท - ป่าสัก เพื่อระบายน้ำลงสู่พื้นที่ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด”
ข่าวเด่น