ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ศตส. ระบุจะบริหารปรับแผนให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพให้ได้มากที่สุด


 


รมต.นร.สุวพันธุ์ฯ เป็นประธานประชุม ศตส. ระบุเปลี่ยนระบบจัดคิวจากแจกบัตรคิวเป็นจัดคิวกลุ่มละ 70 คน เผยจะบริหารปรับแผนอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพให้ได้มากที่สุด ขณะที่รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขอให้ประชาชนเห็นใจเจ้าหน้าที่และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกส่วน

วันนี้ (30 ต.ค.59) เวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์พร้อมหารือปรับแผนรองรับประชาชนที่จะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ภายหลังการประชุม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผลการประชุมร่วมกับ พลตรี พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกระทรวงคมนาคม พลตำรวจตรี ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศตส. ได้ประเมินผลการปฏิบัติงานของเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.59) ในเรื่องต่าง ๆ ประกอบด้วย การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท การดูแลทางการแพทย์ สาธารณสุข การคมนาคม การจราจรภายในพื้นที่ การอำนวยความสะดวกเรื่องที่พักคอย อาหารเครื่องดื่ม รวมทั้งหารือถึงแนวทางในการปฏิบัติทั้งเรื่องการปรับพื้นที่ท้องสนามหลวง การจัดระบบบัตรคิวที่จะเป็นการจัดบัตรคิวเป็นกลุ่ม และหารือเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.59 เป็นต้นไป ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประชุมชี้แจงกับบริษัทท่องเที่ยว และส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการขนส่งนักท่องเที่ยวแล้ว โดยได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องการจัดการจราจร การจัดทางเดินเข้า-ออกของประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งการปฏิบัติตัว ซึ่งกรมการท่องเที่ยวจะประสานงานกับสำนักพระราชวัง โดยทุกเรื่องจะมีความชัดเจนภายในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.59) เพื่อเตรียมพร้อมให้เกิดความเรียบร้อยในวันที่ 1 พ.ย.นี้ สำหรับปัญหาที่พบจากการปฏิบัติงานเมื่อวานนี้เป็นเรื่องสุขภาพอนามัย การเจ็บป่วยของประชาชน การต่อคิวที่ยังยาวอยู่บ้าง แต่จะมีการบริหารปรับแผนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งทุกหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับสำนักพระราชวัง โดยที่ประชุมฝ่ายเลขานุการ ศตส. ได้มอบหมายให้พลตรี พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้กำกับดูแลและควบคุมการปฏิบัติในพื้นที่ รวมทั้งการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะพระบรมศพ ให้ได้มากที่สุด

พลตรี พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า เมื่อวานนี้สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ก่อนเวลาที่กำหนดไว้คือ 08.00 น. เนื่องจากมีประชาชนมารออยู่เกือบ 10,000 คนและประชาชนมีความพร้อม ซึ่งกองอำนวยการร่วมได้พยายามจัดคิวให้ประชาชนได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพตามลำดับ แต่เนื่องจากประชาชนมีจำนวนมากจึงได้เปลี่ยนระบบการจัดคิวจากแจกบัตรคิวเป็นจัดคิวเป็นกลุ่มละ 70 คน เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในการขึ้นไปกราบสักการะ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเมื่อวานนี้จนถึงเวลา 21.00 น. สำนักพระราชวังสามารถรับประชาชนขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพได้ถึงจำนวน 29,000 คน สำหรับปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นคือท้ายแถวของประชาชนที่ต่อคิวเป็นกลุ่มค่อนข้างยาวมาก ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาถึงทีหลังนั้นหาท้ายแถวไม่เจอ จึงมีความจำเป็นต้องเชิญประชาชนเข้าไปอยู่ในสนามหญ้า เพื่อความสะดวกในการต่อท้ายแถว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนและเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังก็คาดหวังให้ประชาชนทุกคนที่เดินทางมาด้วยความจงรักภักดี ได้ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ กันทุกคน แต่ก็มีอุปสรรคจากฝนที่ตกหนักในสองช่วงโดยเฉพาะช่วงเย็น จึงทำให้มีประชาชนตกค้างไม่ได้ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ อยู่จำนวนหนึ่ง โดยกรุงเทพมหานครและกองอำนวยการร่วมได้พยายามแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ตกค้างได้ลงทะเบียนไว้เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพในช่วงเช้าของวันนี้

พลตรี พงษ์สวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้แบ่งพื้นที่สนามหลวงโดยพื้นที่ด้านทิศใต้ของสนามหลวงในพื้นที่ส่วนที่ 5 และ 6 ด้านติดกับพระบรมมหาราชวังมีพื้นที่กว้างสามารถรองรับประชาชนได้จำนวน 20,000-30,000 คน โดยจะปรับคิวทั้งหมดของประชาชนที่รอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ที่ได้จัดเป็นกลุ่มละ 70 คน ให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งจะมีการป้องกันไม่ให้มีคนเข้ามาแทรกคิวได้ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้พิการจะมีเจ้าหน้าที่ลูกเสือคอยดูแลและอำนวยความสะดวกในการเข็นรถวีลแชร์ให้ และมีการจัดคิวพิเศษให้ผู้สูงอายุได้เข้ากราบสักการะโดยไม่ต้องไปรอในพื้นที่ซึ่งมีสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน ขณะที่พื้นที่หมายเลข 4 ศตส. มีมติให้กรุงเทพมหานครจัดเป็นพื้นที่รองรับการพักคอยของประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ สำหรับเวลาสิ้นสุดการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ยังคงเป็น 21.00 น. โดยเจ้าหน้าที่จะพยายามคำนวณจำนวนประชาชนที่จะเข้าถวายสักการะและประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่เนื่องจากเมื่อวานนี้มีฝนตกลงมาจึงทำให้เกิดข้อขัดข้อง ดังนั้น วันนี้เมื่อคำนวณจำนวนประชาชนได้ครบ 30,000 คนเมื่อไรก็จะหยุดคิวของประชาชนไว้ก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่รออยู่ได้ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและสำนักพระราชวังจะพยายามทำให้ประชาชนได้ขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ ให้ได้มากที่สุดในทุกโอกาสที่มี จึงขอทำความเข้าใจและขอให้ประชาชนได้เห็นใจเจ้าหน้าที่และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกส่วนด้วย
 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 30 ต.ค. 2559 เวลา : 17:10:11

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:14 am