เมื่อ 31 ต.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง แนวคิดการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า ตนให้สัมภาษณ์เองว่าผู้บังคับบัญชาเป็นห่วง และรอให้ที่ประชุมฯพิจารณาดูว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำการลงทะเบียนออนไลน์มาใช้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราพร้อมหรือกำลังจะดำเนินการเปิดลงทะเบียนออนไลน์ เพราะยังมีคนบางส่วนเข้าไม่ถึงระบบออนไลน์ ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนส่วนนั้นไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้วย ขณะนี้การลงทะเบียนออนไลน์เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นข้อยุติว่าต้องนำมาใช้ หากมีประโยชน์ก็นำมาใช้ แต่ถ้าเกิดความเหลื่อมล้ำก็ไม่ต้องนำมาใช้
“วิธีการจองบัตรคิวออนไลน์เป็นแค่กระบวนการให้พิจารณาดูเท่านั้น หากไม่จำเป็นไม่สามารถที่จะจัดระบบบัตรคิวได้ดีก็ไม่ต้องนำมาใช้ แต่ขณะนี้สื่อนำไปวิพากษ์ในโลกโซเชียลว่าจะนำวิธีการกดบัตรคิวออนไลน์มาใช้ และคนสูงอายุเขาจะมีโอกาสมากราบถวายบังคมหรือไม่ อธิบายให้เข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่มีผลและยังไม่มีการนำมาใช้ แต่อย่างใด” โฆษกรัฐบาลกล่าว
ส่วนการเปลี่ยนจุดรับบัตรคิวนั้น พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ฝั่งใต้ที่อยู่ติดกับพระบรมมหาราชวัง ขณะนี้ใช้เป็นพื้นที่รองรับประชาชน ซึ่งนายกฯ บอกว่าค่อยๆ ปรับย้ายคนและการบริการจากพื้นที่ฝั่งใต้ไปฝั่งเหนือ เพื่อเตรียมการสร้างพระเมรุ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ให้ประชาชนได้ปรับตัว นอกจากนี้นายกฯ ยังเป็นห่วงเรื่องอาหาร เพราะกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสำรวจ พบว่าอาหารมีเพียงพอสำหรับประชาชนที่เดินทางไปท้องสนามหลวง จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยให้สติกับประชาชนว่าเงินเป็นของท่าน แต่อาหารและน้ำเป็นของโลก ดังนั้นเมื่อรับอาหารมาแล้วควรบริโภคให้หมด อย่ากินทิ้งกินขว้าง ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราไม่ควรติติงต่อว่ากันเล็กๆ น้อยๆ ควรเห็นอกเห็นใจกัน เอื้อเฟื้อต่อกันและกัน จะได้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปสังคม
.jpg)
ข่าวเด่น