รฟท. จัดระเบียบจุดให้บริการแจกสิ่งของเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รองรับการเป็นศูนย์กลางการเดินทางขนส่งระบบสาธารณะ
ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดให้สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นศูนย์กลางการเดินทางขนส่งระบบสาธารณะ พร้อมกับจัดให้มีพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ที่เดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา การรถไฟฯ รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และกลุ่มจิตอาสาที่เข้ามาร่วมแจกอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของต่างๆ ให้แก่ประชาชน และผู้ใช้บริการรถไฟ ที่จะเดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทมาด้วยดีโดยตลอด
การรถไฟฯ ได้ดำเนินการจัดระเบียบเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยภายในสถานีกรุงเทพ ด้วยการจัดพื้นที่ในบริเวณลานจอดรถหน้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นจุดให้บริการแก่กลุ่มจิตอาสา พร้อมกับจัดเตรียมโต๊ะ เต๊นท์ผ้าใบ แนวกั้นในการเข้าแถวเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับขอความร่วมมือกับกลุ่มจิตอาสา ในการงดแจกอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งของต่างๆ ในบริเวณโถงกลางหรือจุดขึ้น-ลงรถโดยสารสาธารณต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัด และกีดขวางทางผู้โดยสารในการเดินทางสัญจร แต่เนื่องจากในแต่ละวันมีกลุ่มจิตอาสาเข้ามาแจกอาหาร เครื่องดื่ม และ สิ่งของต่างๆ เป็นจำนวนมาก จนทำให้มีคนบางกลุ่มมารับของบริจาคเกินความจำเป็น จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา รวมทั้งยังทำให้เกิดปัญหาความสกปรก และขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย
การรถไฟฯ จึงมีความจำเป็นที่ต้องกำหนดระยะเวลาในการแจกสิ่งของต่างๆ ของกลุ่มจิตอาสา โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงต่อวัน ดังนี้ รอบที่ 1 ตั้งแต่เวลา 05.00-07.00 น. รอบ 2 ตั้งแต่เวลา 11.00 -13.00 น. รอบ 3 ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. นอกจากนี้เพื่อให้การแจกอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของต่างๆ ถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึง กลุ่มจิตอาสาสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ที่สถานีกรุงเทพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแจกอาหารให้กับผู้โดยสารบนขบวนรถต่างๆ ได้ด้วย
สุดท้ายนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ใคร่ขออภัยแก่กลุ่มจิตอาสาต่างๆ ที่อาจไม่ได้รับความสะดวก แต่ทั้งนี้เป็นการกระทำไปเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และความปลอดภัยแก่กลุ่มจิตอาสา แก่ประชาชนที่ใช้บริการขนส่งระบบสาธารณะต่างๆ จึงมีความจำเป็นในการจัดมาตรการดังกล่าวขึ้น โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น