ธ.ก.ส.ร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ เร่งสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรองค์กรและสถาบันของเกษตรกร พัฒนาด้านเทคโนโลยี ด้านการจัดการให้เป็นผู้ประกอบการภาคเกษตร (Small and Medium Agricultural Enterprise : SMAEs)
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสภาเกษตรกรแห่งชาติจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน โดยมี นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมลงนามในพิธีฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรองค์กรและสถาบันของเกษตรกรให้ได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งด้านความรู้และเพิ่มพูนทักษะการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรและยกระดับการจัดการอย่างครบวงจรทั้งในด้านวางแผนการผลิต การรวมกลุ่มอาชีพการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพผลผลิตการสนับสนุนให้ใช้เครื่องจักรกลอย่างเต็มศักยภาพและการจัดการด้านการตลาดเพื่อพัฒนาให้ยกระดับเป็นผู้ประกอบการภาคเกษตร (SMAEs) ณ โรงแรมเอบีน่า เฮ้าส์ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “สภาเกษตรกรแห่งชาติเป็นสถาบันของเกษตรกรที่มุ่งเน้นสร้างความเป็นธรรมและมั่นคงในอาชีพเกษตรกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพื่อกำหนดนโยบายในการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร องค์กรเกษตรกร ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งด้านการผลิต การแปรรูป การตลาด และการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งเป้าหมายของสภาเกษตรกรแห่งชาติและธ.ก.ส.นับเป็นเป้าหมายเดียวกัน คือมุ่งพัฒนาและส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งครอบคลุมทุกมิติของอาชีพด้านการเกษตร ดังนั้นเมื่อสองหน่วยงานผนึกกำลังประสานความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การสร้างเครือข่ายภาคีความร่วมมือของผู้ประกอบการภาคเกษตรจะเข้มแข็งอย่างยั่งยืน”
ด้านนายนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า “การลงนามในครั้งนี้ มุ่งเน้นเติมเต็มให้กับเกษตรและกลุ่มเกษตรกรที่ยังขาดโอกาสในการเรียนรู้ขาดประสบการณ์พื้นฐานด้านธุรกิจต้องการความรู้เพื่อไปพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการภาคเกษตร (Small and Medium Agricultural Enterprise : SMAEs) และเพิ่มทักษะให้เป็นผู้ประกอบการเกษตร นับเป็นกลุ่มที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมากและกระจายอยู่ในพื้นที่ชนบททั่วประเทศ หากเกษตรกรกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้จากต้นแบบ SMAEs เรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จะเข้าใจถึงการให้ความสำคัญต่อวิธีการจัดทำแผนธุรกิจ การลงทุน การตลาด สามารถนำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ตัดสินใจเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและนวัตกรรม การตลาดในโลกยุคใหม่ พร้อมทั้งดำเนินการจัดทำโครงการ SMAEs ของกลุ่มหรือชุมชนของตนเองได้ ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งและมั่นคง ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น”
ภายหลังพิธีการร่วมลงนามความร่วมมือดังกล่าวได้จัดให้มีการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับผู้บริหารของ ธ.ก.ส ในหัวข้อเรื่อง “การศึกษากระบวนการและการจัดทำแผนงานพัฒนาผู้ประกอบการ SMAEs ใหม่ (Emerging SMAEs)” เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา SMAEs ตามภารกิจและวางแผนปฏิบัติการส่งเสริมการเรียนรู้ในระดับจังหวัด ตามกระบวนการและพื้นที่เป้าหมายในการขยายองค์ความรู้สู่เกษตรกรต่อไป
.jpg)
ข่าวเด่น