สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -5.57 จุด ราคาน้ำมันร่วง-การเมืองสหรัฐฯ กดดัน
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1493-1504 มีแรงกดดันจากราคาน้ำมันร่วงต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และความไม่แน่นอนผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ที่มีคะแนนสูสีกันมากขึ้น แต่ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นงบดี-หุ้นมีประเด็นเป็นรายตัว ต่างชาติขายสุทธิ 2.06 พันลบ. 9 วันติดต่อกัน แต่พลิก Long S50 Futures 276 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ในลักษณะซึมลง, นลท.ระมัดระวังเลือกตั้งสหรัฐฯ
หุ้นโลกเมื่อคืน (3 พ.ย.) โดยรวมยังปรับลงต่อเล็กน้อย หลังราคาน้ำมันร่วงต่ำกว่า 45$/bbl ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 6 สัปดาห์ กังวลภาวะอุปทานล้นตลาด และความกังวลผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ 8 พ.ย.นี้ มีความไม่แน่นอนสูง หลังคะแนนทั้ง 2 ฝ่ายสูสีกันมาก ด้านผลการประชุม BOE ตัดสินใจคงดบ.ที่ 0.25% และคง QE ตามคาด (ซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนวงเงิน 1 หมื่นล้านปอนด์ และพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ 4.35 แสนล้านปอนด์) แต่มีการปรับคาดการณ์การเติบโตศก.และเงินเฟ้อปีหน้าสูงขึ้นเป็น 1.4% และ 2.7% จากเดิมที่คาดในเดือน ส.ค. ที่ 0.8% และ 2.0% ตามลำดับ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะซึมลง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ และนลท.น่าจะเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กคาดว่าจะยังได้รับความสนใจจากนลท.ต่อไปในช่วงตลาดแกว่งไซด์เวย์ไร้ทิศทางแบบนี้ โดยเฉพาะหุ้นที่คาดงบ Q3 จะออกมาดี แนวรับ 1490+/- (1488-1492), 1480-82 แนวต้าน 1505 อนึ่งคาด PSTC, PSTC-W1 ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ลงซื้อ-ขึ้นขาย แต่หากหลุด 1490 ควรระวังการเทรดสั้นเพิ่ม
แนะนำใช้กรอบ 1490-1520 ในการเทรดดิ้งสั้น อย่างไรก็ดี หาก SET ปิดต่ำกว่า 1490 จะเป็นสัญญาณไม่ดี ควรขายกระชับพอร์ต-ลดวงเงินเทรดสั้นลง และเรายังคงจุด Stop Loss ของการเทรดดิ้งรอบนี้ไว้ที่ 1470
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Picks CSS – ราคาหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้ตามผลกำไรที่ถดถอย อย่างไรก็ดี PER ปัจจุบันลดลงเหลือ 17.5x, มี Div. Yield ราว 5% และราคาหุ้นเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวก น่าสนใจต่อการเทรดดิ้ง, แนวโน้มกำไรปีหน้าน่าจะดีขึ้นจากการรับรู้รายได้งานในมือ 1.5 พันลบ.พร้อมมีโอกาสได้งานใหม่เพิ่มในอนาคต ล่าสุด ครม.อนุมัติให้กฟภ.พัฒนาระบบส่ง-จำหน่ายไฟฟ้าระยะ 1 (ปี 59-64) รวมมูลค่า 6.27 หมื่นลบ.เป็นอีกโครงการหนึ่งที่มีศักยภาพต่อบริษัท / หุ้นคาดงบ Q3 ดีมี upside สูง โดยกลุ่มกำไรพลิกฟื้น-โตมาก (Growth > 50%) ชอบ AAV, BLA, CK, EGCO, GLOBAL, KAMART, MTLS, PTTGC, SPRC, WHA / กำไรโต > 20% ชอบ ANAN, BCH, CENTEL, CPN, DRT, GFPT, GPSC, LPH, PYLON, QH, SYNEX, UNIQ / หุ้นคาดกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกและปีหน้าโตต่อ ANAN, BEM, BLA, ILINK, JWD, KAMART, SAWAD, SEAFCO, SPA, TPIPL, TTCL, UNIQ / หุ้นพื้นฐานอิงงานประมูลภาครัฐ ชอบ CK, UNIQ, SEAFCO, ILINK, LOXLEY / หุ้นปันผลสูง ชอบ BJCHI, INTUCH, MC, PS, TCAP
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ CK (เป้าสั้น 30.5 บ.), BJC (54 บ.), BLA (53.5 บ.) / ถือ BEM (8.1 บ.), DTAC (34 บ.) / ขายตัดขาดทุน SAMART (-5.4%)
• หุ้นเด่น พ.ย. (Smart Tactics) BEM, BJC, BLA, CK, GFPT, GLOBAL, TPBI, VNG
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
4 พ.ย. JP, EU PMI ภาคบริการญี่ปุ่น, สหภาพยุโรปใน ต.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิตสหภาพยุโรปใน ก.ย.
US ดุลการค้าสหรัฐฯ ใน ก.ย., การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ใน ต.ค.
7 พ.ย. CH, EU ปริมาณเงินทุนสำรองฯ จีนใน ต.ค., ยอดค้าปลีกสหภาพยุโรปใน ก.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
.jpg)
ข่าวเด่น