นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันจันทร์นี้ (7 พ.ย.) มีวาระพิจารณากรณี บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ที่ใช้คลื่นความถี่ ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ระดับชาติ (Mux) ได้ทำหนังสือถึง กสท.แจ้งความประสงค์ขอ “ระงับ”การให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดิจิทัล พร้อมทั้งมาตรการเยียวยาผู้ได้ผลกระทบ ในกรณี บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ได้ทำผิดสัญญาเช่าใช้บริการ เพื่อให้กสท.พิจารณาและอนุญาตให้ดำเนินการ
โดยส่วนตัวมองภาพรวม ปัญหาที่ผู้ใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประสบความยากลำบากทางการเงินจนไม่สามารถชำระค่าบริการโครงข่ายโทรทัศน์ตามเงื่อนไขของสัญญาเช่าใช้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ส่วนหนึ่งนั้น มีสาเหตุมาจากการต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่ไม่สมควรหลายประการ และประการหนึ่งในนั้นคือการคิดอัตราค่าบริการของผู้ให้บริการที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง จึงเป็นการผลักภาระไปให้ผู้ประกอบการช่อง ส่งผลให้ประกอบการช่องได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในสภาพตลาดของธุรกิจประเภทนี้ ซึ่งกลไกตลาดไม่ได้ทำงานแบบปกติโดยมีลักษณะแบบกึ่งผูกขาด เนื่องจากมีผู้ให้บริการไม่กี่ราย ในขณะที่ผู้ประกอบการช่องทีวีจำนวนเกือบพอดีกับโครงข่ายที่ให้บริการ ทำให้ผู้ประกอบการช่องทีวีไม่มีทางเลือกและอำนาจต่อรองมากนัก
“การแก้ปัญหามีหลายวิธี อาจจะมีการควบคุมและคิดอัตราค่าบริการโครงข่าย ให้เป็นไปตามความเป็นจริงก่อน โดยผู้ให้บริการโครงข่าย ยังคงได้กำไรอยู่แต่เป็นกำไรในอัตราที่เหมาะสม หรือ กสท.อาจจะมีมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล”
ก่อนหน้านี้ กสท.มีมติ เรื่องแนวทางปฏิบัติการขอพักการให้บริการของผู้ให้บริการโครงข่ายหากผู้ให้บริการโครงข่ายจะยกเลิกการให้บริการผู้ใช้บริการหรือช่องทีวีดิจิทัล ต้องยื่นคำร้องให้ กสท.เห็นชอบพร้อมให้ให้เหตุผลและข้อเท็จจริง และเมื่อ กสท.อนุมัติให้แจ้งล่วงหน้า 30 วันกับผู้ใช้บริการจากนั้น กสท.จะใช้มาตรการเนียวยาให้เผยแพร่ออกอากาศได้อีก 30 วันซึ่งระหว่างนี้ผู้ใช้บริการต้องหาผู้ให้บริการโครงข่ายรายอื่นเพื่อดำเนินกิจการต่อไป
.jpg)
ข่าวเด่น