วันนี้ (7พ.ย.59) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 8/2559 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งที่ประชุมรับทราบว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมหารือการบริหารจัดการข้าวเพื่อแก้ไขปัญหาต่อเนื่องจากการแก้ปัญหาให้ความช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิที่ผ่านมา โดยเฉพาะข้าวขาวและข้าวปทุมธานี ซึ่งหลักการให้ดำเนินการในลักษณะใกล้เคียงกับกรณีข้าวหอมมะลิโดยไม่ให้เกิดความแตกต่างกัน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมฯ โดยกล่าวแสดงความห่วงใยประชาชนทุกคน และยืนยันรัฐบาลไม่ทอดทิ้งเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา ชาวไร่ และชาวสวน ซึ่งรัฐบาลดำเนินการโดยรับฟังข้อเสนอและความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั้ง เกษตรกรชาวนา โรงสี ผู้ประกอบการค้าข้าว ข้าราชการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินมาตรการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 เพิ่มเติม โดยที่ประชุมเห็นชอบโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ปี 2559/60 นาปี หรือ รอบที่ 1 เพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บข้าวไว้ก่อนโดยไม่ต้องรีบขายข้าวทันทีในช่วงที่ราคายังต่ำอยู่ ซึ่งเกษตรกรสามารถขอสินเชื่อที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดย ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีให้เกษตรกรเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายได้ สำหรับการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ปี 2559/60 นาปี หรือ รอบที่ 1 มีดังนี้
1) ข้าวเปลือกเจ้า กำหนดราคาเป้าหมายต่อตัน 7,000 บาท ค่าเตรียมข้าวขึ้นยุ้งและค่าฝากเก็บ 1,500บาท/ตัน ค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพ 2,000 บาท/ตัน (รายละไม่เกิน 10 ไร่ ) โดยชาวนาได้รับเงิน 10,500 บาท/ตัน กรณีขึ้นยุ้ง ส่วนกรณีไม่ขึ้นยุ้ง ชาวนาจะได้รับเงิน 9,000 บาท/ตัน 2) ข้าวเปลือกปทุม กำหนดราคาเป้าหมายต่อตัน 7,800 บาท ค่าเตรียมข้าวขึ้นยุ้งและค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพ 2,000 บาท/ตัน (รายละไม่เกิน 10 ไร่ ) โดยชาวนาได้รับเงิน 11,300 บาท/ตัน กรณีขึ้นยุ้ง ส่วนกรณีไม่ขึ้นยุ้ง ชาวนาจะได้รับเงิน 9,800 บาท/ตัน ทั้งนี้ ขอให้เกษตรกรชาวนามาขึ้นทะเบียนโดยเร็ว เพื่อจะรับความช่วยเหลือตามมาตรการโครงการดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวออกมาจำนวนมากนั้น กระทรวงกระทรวงพาณิชย์ จะเชิญผู้ซื้อข้าวจากต่างประเทศทั่วโลก 15 ประเทศ จำนวน 150 กว่าราย เพื่อซื้อข้าวจากเกษตรกรชาวนาโดยตรง รวมถึงกลุ่มสหกรณ์และกลุ่มผู้ส่งออกด้วย โดยตลาดการซื้อขายข้าวดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 พฤศจิกายน 2559 ณ เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว
ข่าวเด่น