ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สถานการณ์ราคาน้ำมันและแนวโน้มประจำสัปดาห์: 7 - 11 พ.ย. 59 - บมจ.ไทยออยล์


 


หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน 7 - 11 พ.ย. 59 ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 43 – 48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 44 – 49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (7 – 11 พ.ย. 59) 
         
 
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะผันผวนต่อเนื่อง หลังตลาดไม่มั่นใจกับท่าทีของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับมาตรการลดกำลังการผลิต เนื่องจากไม่มีข้อสรุปออกมาจากการประชุมในวันที่ 28 – 29 ต.ค. และ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในเดือน ต.ค. ทำให้ข้อตกลงของกลุ่มโอเปกเป็นไปได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ และปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
         
ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่กำหนดเพดานการผลิตไว้ที่ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรล เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน หลังกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 28 – 29 ต.ค. ประกอบกับ อุปทานจากลิเบีย และ ไนจีเรียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศคลี่คลายลง นอกจากนี้ ประเทศนอกกลุ่มโอเปกเช่น บราซิล และ คาซัคสถานอาจมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยกลุ่มโอเปกจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. นี้
         
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกคาดการณ์โดยสำนักข่าว Reuters มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ มาสู่ระดับ 33.83 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. จากระดับ 33.69 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. โดยเพิ่มขึ้นจากไนจีเรีย ลิเบีย และ อิรัก ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นรวมกันถึง 0.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลมากขึ้นว่าผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจาลดกำลังการผลิต
          
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังอัตราการกลั่น (Refinery run rate) ขยับลดลงอีก 0.4% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
          
ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง โดยปรับเพิ่มขึ้น 116 แท่น จากต้นเดือนมิ.ย. มาสู่ระดับ 441 แท่นในเดือนต.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันดิบทรงตัวอยู่ในระดับ 45 – 50 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตน้ำมันดิบจากหินดินดาน (Shale oil) ในหลายๆ แหล่งคุ้มทุน นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดกังวลกับภาวะอุปทานล้นตลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
          
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกยูโรโซน ปริมาณการส่งออกจีน ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคจีน การลงทุนทางตรงจีน 

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (31 ต.ค. – 4 พ.ย. 59)
          
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 4.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 44.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง 4.13 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 45.58 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 43 เหรียญสหรัฐฯ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 14.4 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล โดยนับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่อมาตรการลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตโอเปก หลังการประชุมในวันที่ 28 – 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก ขณะที่ ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 6 ประเทศได้แก่ รัสเซีย,คาซัคสถาน, เม็กซิโก, โอมาน, อาเซอร์ไบจาน, บราซิล มีผู้ให้ความร่วมมือกับมาตรการดังกล่าวเพียงโอมานและอาเซอร์ไบจานเท่านั้น


บันทึกโดย : วันที่ : 08 พ.ย. 2559 เวลา : 08:18:43

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:09 am