ครม.ไฟเขียวโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2559/60
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ครม. มีมติช่วยเหลือชาวนานอกจากข้าวหอมมะลิ ให้ครอบคลุมถึงข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 (ข้าวหอมปทุม) ที่ประสบปัญหาเช่นกัน ด้วยการออกสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 59/60 จากข้าวหอมมะลิ 23 จังหวัด เป็นครอบคลุมทั้งประเทศ และมีพื้นที่ปลูกข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ด้วย โดยมีเป้าหมายคือข้าวหอมมะลิ 2 ล้านตัน ข้าวเปลือกเจ้า-ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 รวมประมาณ 1 ล้านตัน โดยมีความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ2
สาระสำคัญของเรื่อง
โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60
(1) พื้นที่ดำเนินการ ให้ขยายพื้นที่และชนิดข้าวตามโครงการฯ ดังนี้
1) พื้นที่ปลูกข้าวเปลือกหอมมะลิทุกจังหวัด (ขาวดอกมะลิ 105 และ กข.15) ทั่วประเทศ จากเดิมกำหนดเฉพาะในเขตพื้นที่ 23 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
2) พื้นที่ปลูกข้าวเปลือกเจ้านาปี และข้าวเปลือกปทุมธานี 1
(2) เป้าหมาย ให้ ธ.ก.ส.จ่ายสินเชื่อการขายผลิตผลเพิ่มเติม โดยใช้ข้าวเปลือกหอมมะลิในเขตพื้นที่ 23 จังหวัด และนอกเขตพื้นที่ เป็นหลักประกัน จำนวนประมาณ 2 ล้านตัน ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกปทุมธานี 1 เป็นหลักประกัน จำนวนประมาณ 1 ล้านตัน
(3) กำหนดวงเงินสินเชื่อต่อตัน
1) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขตพื้นที่ 23 จังหวัด กำหนดวงเงินสินเชื่อและค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิในเขตพื้นที่ 23 จังหวัด
2) ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ 2 ในอัตราไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาตลาด โดยพิจารณาจากราคาเฉลี่ยข้าวเปลือกเจ้าในปัจจุบันที่ประมาณตันละ 7,800 บาท วงเงินสินเชื่อต่อตัน 7,000 บาท
3) ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 สิ่งเจือปนไม่เกินร้อยละ 2 ในอัตรา
ไม่เกินร้อยละ 90 ของราคาตลาด โดยพิจารณาจากราคาเฉลี่ยข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ในปัจจุบันที่ประมาณตันละ 8,700 บาท วงเงินสินเชื่อต่อตัน 7,800 บาท
(4) ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ให้มีค่าใช้จ่ายในการตากข้าวเปลือกและค่าแรงงานในการเตรียมข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการฯ เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ จึงให้ค่าตากข้าวเปลือกและค่าแรงงานในการเตรียมข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการ ตันละ 1,500 บาท โดยจ่ายเป็นค่าเตรียมข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการในวันเบิกรับเงินกู้ 1,000 บาท และจ่ายเพิ่มอีกตันละ 500 บาท ในวันที่ไถ่ถอนข้าวเปลือกหลังจากเข้าร่วมโครงการ ไม่น้อยกว่า 30 วัน
(3) กรณีเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนหากราคาข้าวเปลือกในตลาดต่ำกว่าวงเงินสินเชื่อต่อตันให้
ธ.ก.ส. พิจารณาขยายระยะเวลาไถ่ถอนและชำระคืนออกไปไม่เกิน 3 เดือน และให้มีคณะกรรมการระบายข้าว ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ ธ.ก.ส. ดำเนินการระบายข้าวเปลือกที่ใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ดังกล่าว หากเกิดภาระส่วนต่างระหว่างราคาที่โครงการกำหนดในการให้สินเชื่อกับราคาจากการระบาย รัฐบาลจะชดเชย ส่วนต่างดังกล่าวให้ ธ.ก.ส.
การจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ผู้ปลูกข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกปทุมธานี 1 เพื่อช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อย โดยใช้ฐานข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับเงินสนับสนุนตามโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุน การผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/60 โดยกำหนดจ่ายให้แก่เกษตรกร ตันละ 2,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือไม่เกินกว่าที่ให้กับข้าวหอมมะลิไม่เกิน 12,000 บาท ต่อครัวเรือน ทั้งรายที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 และไม่ได้เข้าร่วมโครงการฯ โดย ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชีให้กับเกษตรกร ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 25560
ข่าวเด่น