นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงการคลัง จัดเก็บภาษีสรรพสามิตทั้งดีเซลและเบนซินเพิ่ม 20 สตางค์ต่อลิตร ไม่ได้ส่งผลให้ประชาชนมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะราคาน้ำมันขายปลีกไม่ปรับขึ้น นอกจากนี้จากการที่ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง และค่าการตลาดสูง เชื่อว่าผู้ค้าน้ำมันจะสามารถปรับลดราคาน้ำมันให้ประชาชนทุกประเภททั้งเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล 20 สตางค์ต่อลิตร
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในปัจจุบันที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำทำให้การใช้น้ำมันมียอดเติบโตขึ้นตลอด โดยกลุ่มเบนซินมีประมาณ 29 ล้านลิตรต่อวัน และดีเซลประมาณ 62 ล้านลิตรต่อวัน รวม 91 ล้านลิตรต่อวัน การเก็บภาษีเพิ่มขึ้นครั้งนี้ รัฐบาลจะได้รายได้เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 6,500 ล้านบาทต่อปี
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและเบนซิน 20 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.59 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 20 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการน้ำมัน ไม่เปลี่ยนแปลง ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 6,500 ล้านบาทต่อปี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ข่าวเด่น