หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 9 พ.ย. 2559 ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนจับตาดูผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ
(+/-) ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อดูท่าทีของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งจะกำหนดทิศทางนโยบายพลังงานและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ว่าจะเป็นไปทิศทางใด
(+/-) ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ของสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) หลังบ่งชี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่เพียง 1.1 ล้านบาร์เรลเท่านั้น อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงตามรายงานของ API โดยปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมัน Distillate คงคลังมีการปรับตัวลดลง 3.6 ล้านบาร์เรลและ 4.3ล้านบาร์เรลตามลำดับ
(+/-) กลุ่มโอเปกคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกจะได้รับส่วนแบ่งทางตลาดมากขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ อย่างไรก็ดีกลุ่มโอเปกได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบลงเหลือเพียง 65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2563หลังจากได้คาดการณ์ในปีที่ผ่านมาว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 80เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในปี 2564
(-) ข้อตกลงการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกยังมีท่าทีที่ไม่แน่นอนในการประชุมวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ที่จะถึงนี้ หลังประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกหลายรายแสดงท่าทีต้องการที่จะได้รับการยกเว้นการลดกำลังการผลิตในข้อตกลงครั้งนี้ นอกจากนี้ รัสเซียประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศนอกกลุ่มโอเปกก็ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการร่วมตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในครั้งนี้ด้วย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากท่อขนส่งน้ำมันเบนซิน Colonial ในสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาดำเนินการได้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากออสเตรเลียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงล้นตลาด ประกอบอุปสงค์ช่วง 9 เดือนแรกในประเทศจีนที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.9เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดีเซลจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนามก็ตาม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ43-48เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 4-49เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่กำหนดเพดานการผลิตไว้ที่ 32.5 -33.0 ล้านบาร์เรล เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน หลังกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 28 -29 ต.ค. ประกอบกับ อุปทานจากลิเบีย และ ไนจีเรียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ประเทศนอกกลุ่มโอเปกเช่น บราซิล และ คาซัคสถาน ยังมีแผนเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นอีกในอนาคต โดยกลุ่มโอเปกจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. นี้
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกคาดการณ์โดยสำนักข่าว Reuters มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 33.83 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. จากระดับ 33.69 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. โดยเพิ่มขึ้นจากไนจีเรีย ลิเบีย และ อิรัก ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลมากขึ้นว่าข้อตกลงของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะไม่ประสบความสำเร็จ
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 9 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น