ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดบวกอีกเล็กน้อย แต่ยังไม่ผ่าน 1,510 จุด ผลักดันด้วยกลุ่ม ICT อย่าง TRUE / ADVANC ที่พักตัวมานานก่อนหน้านี้ รวมถึงกลุ่มธนาคาร นำโดย KBANK / BBL ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกอีกเล็กน้อย 7.57 จุด มาอยู่ที่ 1,509.84 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 64,905 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 12 เพียง 130 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 9,066 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 656 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
คาดผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทราบภายในช่วงเที่ยงวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย
ติดตามการรายงานผลการนับคะแนนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ผ่านทาง website: www.edition.cnn.com
ติดตามการประชุมกนง. ทราบผลก่อนเปิดตลาดรอบบ่ายวันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 2)
เราคาดว่า SET INDEX จะแกว่งผันผวนในช่วงเปิดตลาดตลอดไปจนถึงก่อนปิดตลาดรอบเช้า ตามผลการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลทั้งหมดภายในช่วงเที่ยงตามเวลาประเทศไทย
หากนาง Clinton คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งนัดนี้ คาดว่า SET INDEX จะตอบรับเชิงบวกและขึ้นไปทดสอบ 1,520 จุด ผลักดันด้วยหุ้น Big Cap โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี
- กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรหุ้น Commodity รอบสั้น เพื่อรอขายเมื่อ SET INDEX ทะลุ 1,520 จุดขึ้นไป
แต่หากเป็นนาย Trump คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งนัดนี้ คาดว่า DJIA Futures จะปรับตัวลงแรง 5% +/- และกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปลดลงแรงเช่นกัน สำหรับ SET INDEX มีโอกาสทดสอบแนวรับ 1,480 จุด +/-
- กลยุทธ์การลงทุน ทยอยสะสมหุ้น Domestic Play เน้นกลุ่มธนาคาร / ค้าปลีก / ขนส่ง / รับเหมาก่อสร้าง เพราะการปรับฐานลงเป็นเพียงชั่วครามเท่านั้น
Strategy of the Day
1. หาก Hillary Clinton ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แนะนำซื้อหุ้นกลุ่ม Global Play และ Big Cap ได้แก่ พลังงาน, ปิโตรเคมี และธนาคาร
a) กลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ได้แก่ PTT, PTTGC, BANPU
b) กลุ่มธนาคาร ได้แก่ SCB, TMB
2. หาก Donald Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แนะนำซื้อหุ้นกลุ่ม Domestic Play และ Big Cap ได้แก่ กลุ่มธนาคาร, ค้าปลีก และโครงสร้างพื้นฐาน
- กลุ่มธนาคาร ได้แก่ SCB, TMB
- กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ BJC
- กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ CK, BEM
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 12 อีก US$55 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$437 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 12 แต่ชะลอชัดเจน
นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 12 เหลือเพียง 130 ล้านบาท รวม 12 วันทำการขายสุทธิ 13,676 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 107,732 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 มากถึง 9,066 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 9,785 สัญญา คาดเป็นการเร่งปิดสถานะ Short และกลับมาถือสถานะ Long อีกครั้ง เมื่อ S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 5 เท่ากับ 0.79 จุด แคบลงจากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.13 จุด ส่งผลให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมามีสถานะ Long สุทธิอีกครั้ง 1,991 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 656 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 2,557 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 0.22bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.84bps ปิดที่ 2.167%
Short-Selling วานนี้
วานนี้เท่ากับ 874 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า 873 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 66 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 69 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่มธนาคาร และโรงพยาบาลเป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 753 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิเพียง 141 ล้านบาท โดยเลือกที่จะสะสมกลุ่มธนาคารเป็นหลัก 289 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มโรงพยาบาล 177 ล้านบาท และกลุ่มพลังงาน 166 ล้านบาท ส่วนกลุ่มขนส่ง ถูกขายสุทธิสูงสุด 95 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ผลผลิตภาคอุตฯ เยอรมันลดลงมากกว่าคาด: ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนก.ย. ลดลง 1.8% mom เป็นการลดลงแรงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2557 และต่ำกว่า Reuters poll คาด -0.5% mom เท่านั้น ส่งผลให้ผลผลิตภาคอุตฯ ใน 3Q59 เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% qoq ผลักดันโดยภาคการก่อสร้าง +0.9% qoq
คาดหนี้สาธารณะของอังกฤษจะไม่ลดลง: The Institutes for Fiscal Studies คาดการณ์ว่าอังกฤษจะใช้งบประมาณขาดดุลใกล้ระดับ GBP1.5 หมื่นล้านภายในปีงบประมาณ 2562/63 แทนที่จะเป็นงบประมาณเกินดุล GBP1.0 หมื่นล้าน ตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะของอังกฤษจะทรงตัวระดับ 84% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2562/63 และหลังจากนั้นจึงจะค่อยลดลง
สภาฯ ฮังการีปฎิเสธแผนการห้ามรับผู้อพยพ: นายกฯ Orban ของฮังการี เสนอห้ามการตกลงเรื่องรับผู้อพยพเข้าประเทศใหม่ เมื่อสภาให้เสียงสนับสนุนเรื่องดังกล่าวเพียง 131 เสียง จากทั้งหมด 199 เสียง ซึ่งขาดเสียงสนับสนุนไปเพียง 2 เสียงเท่านั้น ก็จะครบ 2 ใน 3 และผลักดันให้ข้อเสนอนี้ออกมาเป็นกฎหมายได้
อียูเตรียมขึ้นบัญชีดำสำหรับการหลบเลี่ยงภาษี: รมว.คลัง อียู เตรียมหารือถึงแนวทางการขึ้นบัญชีดำสำหรับ Tax Havens ทั่วโลก เพื่อกำหนดกรอบมาตรการคว่ำบาตรกับประเทศเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีการหารือถึงคำนิยามระหว่าง Tax Havens และ รายละเอียดอื่นๆ ที่เป็นการเพิ่มแนวทางการหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งนี้สมาชิกอียู ตกลงร่วมกันที่จะกำหนดรายชื่อร่วมกันภายในสิ้นปี 2560 หลังเกิดประเด็น Panama Papers
จีน
ตัวเลขการส่งออก – นำเข้า เดือนต.ค.หดตัวมากกว่าคาด
- การส่งออกเดือนต.ค.สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 7.3% yoy หดตัวมากกว่า Reuters poll คาด -6.0% yoy แม้ว่าจะชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 10.0% yoy ส่งผลให้ 10M59 ส่งออกจีนหดตัว 7.7% yoy
- การนำเข้าเดือนต.ค. สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.4% yoyหดตัวมากกว่า Reuters poll คาด -1.1% yoy แม้ว่าจะชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -1.9% yoy ก็ตาม ทั้งนี้จีนชะลอการนำเข้าสินแร่เหล็ก, น้ำมัน, ถ่านหิน และทองแดง หลังจากเร่งการนำเข้าไปในช่วงก่อนหน้า
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.กองทุนเพื่อการสนับสนุน Thailand Future Fund: ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อการสนับสนุนกองทุนรวมโคงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ได้รับความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมาย และร่างอนุบัญญัติที่เสนอ ครม.คณะพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไปประกอบการพิจารณา จากนั้นส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนเสนอ สนช.ต่อไป
นายกฯ ลงนามร่าง รธน.แล้ว: พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามร่างรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ครบกำหนดในวันนี้ 8 พ.ย. ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอน และกรอบเวลาที่จะต้องทูลเกล้าฯ ภายใน 30 วัน
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 9 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น