MTS Gold Research | บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (ภาคเช้า)(10 พ.ย.59)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำค่อนข้างผันผวนอย่างมากในช่วงการซื้อขายตลาดเอเชียเมื่อวานนี้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน สามารถชนะการเลือกตั้งได้อย่างพลิกความคาดหมายที่คะแนน 279 ต่อ 228 คะแนน นอกจากนี้พรรครีพับลิกันยังชนะทั้งในสภาสูงและสภาล่าง ทำให้มีความผันผวนทั้งในตลาดหุ้นเอเชียในทิศทางขาลงเป็นอย่างมาก ขณะที่ทองคำพุ่งขึ้นที่ระดับ 1,338 เหรียญ ส่วนทองคำไทยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 21,900-22,000 บาท/บาททองคำ ขณะที่ภาพรวมของการลงทุนในทองคำในช่วงตลาด COMEX กลับปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนหลุดระดับ 1,300 เหรียญลงมา และทำจุดต่ำสุดใกล้เคียงกับจุดเดิมที่บริเวณ 1,275 เหรียญ ก่อนจะขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,280 เหรียญ เช้านี้ราคาทองคำขึ้นมาอย่างช้าๆที่ระดับ 1,287 เหรียญ โดยที่ค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างมากพลิกความคาดหมายในช่วงเลือกตั้งที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์กลับขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปีที่ระดับ 98.67 จุด
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะปรับตัวลดลง 600 – 800 จุด แต่พอเปิดตลาดกลับค่อนข้างทรงตัวไม่เคลื่อนไหวเท่าใดนัก และท้ายสุดดัชนีฯก็สามารถปรับขึ้นได้กว่า 200 จุด และอยู่ที่ระดับ 18,589.69 จุด และเช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียก็มีปฏิกิริยาตอบรับเช่นเดียวกัน คือดีดตัวกลับมาที่เก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้น Nikkei ของญี่ปุ่น ที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงกว่า 5% วันนี้พลิกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นกว่า 5% เช่นเดียวกัน เรียกว่าการที่ทรัมป์ได้มาเป็นประธานาธิบดีสร้างความสับสนให้กับตลาดการเงินเป็นอย่างมาก และทุกฝ่ายยังมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการปรับเปลี่ยน โดยนายทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า วันที่ 20 ม.ค. ทำให้ ณ ขณะนี้ดูสภาพตลาดมีความสับสนและกลับมาที่เดิมก่อนเลือกตั้งเกือบทุกตลาด ค่าเงินบาทเองเมื่อวานนี้ในช่วงกลางวันซื้อขายแข็งค่าขึ้นโดยทำจุดต่ำสุดบริเวณ 34.86 บาท/ดอลลาร์ ส่วนนี้เช้าอ่อนค่าขึ้นมาที่ระดับ 35.08 บาท/ดอลลาร์ เรียกว่าทุกตลาดมีความสับสนในทิศทางในการลงทุน ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าในช่วงแบบนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่รอความชัดเจนของทิศทางก่อนที่จะดำเนินการใดๆ หรือให้ถือ Cash on Hand มากขึ้น ส่วนเมื่อวานนี้กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำอีก 5.34 ตัน ขณะที่นักวิเคราะห์โดยทั่วไปยังมองว่านโยบายของทรัมป์น่าจะทำให้อเมริกาต้องใช้เงินอย่างมหาศาลและจะกดดันการค้าและเกิดความไม่แน่นอนทางการค้าขึ้น ซึ่งในที่สุดน่าจะเป็นผลดีต่อตลาด Commodity โดยเฉพาะทองคำ อย่างไรก็ดีตลาดก็ยังสับสนปฏิกิริยาการตอบรับในระยะสั้นเป็นอย่างมาก นักวิเคราะห์โดยทั่วไปก็เริ่มมีมุมมองที่กลับไปกลับมาเช่นเดียวกัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างสูงโดยราคาทะลุแนวต้านแกว่งขึ้นแกว่งลง เส้นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปมากองรวมกันที่ระดับ 1,292 เหรียญ – 1,295 เหรียญ ในกราฟรายวัน โดยที่บริเวณ 1,280 เหรียญ ยังเป็นแนวรับสำคัญในระยะสั้น ทำให้ในภาพรวมทางเทคนิคยังเร็วเกินกว่าที่จะบอกว่าทิศทางแนวโน้มจะไปทิศทางไหนชัดเจน จะเห็นได้ว่าราคามีผันผวนมาก และมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างสูง มีความสับสนของนักลงทุนทั้งซื้อและขายสลับกันไป ทองคำไทยเองเมื่อวานนี้เริ่มต้นที่บริเวณ 21,400 บาท/บาททองคำ และกลับมาปิดใกล้เคียงระดับเดิม หลังจากที่ขึ้นไปกว่า 400 บาท/บาททองคำ ไปชนที่ระดับ 22,000 บาท/บาททองคำ ก่อนจะกลับมาร่วงลงมาปิดที่ระดับ 21,400 - 21,500 บาท/บาททองคำ จะเห็นถึงในเชิงเทคนิคนั้นจะมีแนวรับสำคัญที่ 1,270 เหรียญ และแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,307 เหรียญ ทองคำไทยมีแนวรับสำคัญที่ 21,300 บาท/บาททองคำ และแนวต้านที่ 21,850 บาท/บาททองคำ มีกรอบการลงทุนกว้างในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ทำกำไรระยะสั้นแบบรายวัน รอความชัดเจนของทิศทางก่อน โดยที่นักลงทุนทั่วไปยังมีความสับสน แม้ในเชิงเทคนิคเนื่องจากมีการแกว่งตัวตามสภาพข่าวค่อนข้างมาก แนะนำซื้อเข้าบริเวณแนวรับ 1,270 เหรียญ และขายที่ 1,307 เหรียญ ทำกำไรในกรอบกว้างๆ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ Short Position
เก็งกำไรตามกรอบกว้าง เข้าออกไว ตามภาพความผันผวน
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ภาพความผันผวนยังคงอยู่ แนะนำรอดูเหตุการณ์อีกซักระยะ
Gold Futures Z16 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,650 บาท
Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,700 บาท
ข่าวเด่น