AIT เดินหน้าขยายฐานลูกค้าภาคเอกชน อัดงบลงทุนยกระดับ IT รับยุคดิจิทัล โชว์รายได้ไตรมาส 3/59 ทำรายได้ 1,144.48 ล้านบาท
AIT โชว์ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 เดือนแรกปีนี้ทำรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1,144.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 107.04 ล้านบาทจากการส่งมอบงานให้แก่ลูกค้าได้ตามกำหนดและบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับภาวะตลาด ด้านผู้บริหาร AIT เล็งขยายฐานสู่ลูกค้าภาคเอกชน รับโอกาสการลงทุนของภาคเอกชนที่กำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตัลเพื่อเพิ่มระดับขีดความสามารถการแข่งขัน
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 (กรกฎาคม – กันยายน 2559) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1,144.48 ล้านบาท ลดลง 5.5% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 1,212.16 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 107.04 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 112.60 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลต่อภาพรวมผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม – กันยายน 2559) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 3,479.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 331.76 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 3,700.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 407.88 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยภาพรวมผลการดำเนินงานของในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มาจากการส่งมอบงานระบบโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้แก่ลูกค้าได้ตามแผนงานที่วางไว้ อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการบริหารและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับภาวะการณ์ตลาดในปัจจุบัน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทฯ ยังมีมูลค่างานในมือที่อยู่ระหว่างรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 1,451 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปีถัดไปเพื่อสนับสนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานในปี 2560
ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวว่า บริษัทฯ นอกจากจะขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่มุ่งเน้นงานโครงการวางโครงข่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้ลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ในภาครัฐแล้ว บริษัทฯ ยังจะมุ่งกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนที่กำลังปรับเปลี่ยนสู่การทำธุรกิจในยุคดิจิตัล เพื่อการบริหารธุรกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีข้อมูลที่มากพอในการวิเคราะห์ วางแผน กำกับดูแลการบริหารงานในทุกระดับ ตลอดจนการกำหนดทิศทางของธุรกิจพร้อมทั้งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน
ซึ่งการขายในยุคดิจิตัลนี้จะเป็นการขายที่แตกต่างจากการขายในอดีตโดยสิ้นเชิง
“การขายยุคดิจิตัลนี้จะเป็นการขายที่มองถึงผลสำเร็จของธุรกิจของลูกค้าเป็นหลัก จะมีการนำเอา IOT หรือ Internet of Things มาเป็นองค์ประกอบหนึ่งนอกเหนือจากระบบฮาร์ทแวร์ ซอร์ฟแวร์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งตรงกับ concept ของเรา คือ ความสำเร็จของท่านคือความ สำเร็จของเรา” นายศิริพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ AIT ยังมุ่งสู่การลงทุนในธุรกิจที่จะสร้างความมั่นคงด้านรายได้ในระยะยาวจากธุรกิจให้บริการ หลังจากบริษัทฯ เข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันด้วยขีดความสามารถการแข่งขันของ AIT บริษัทฯ ยังให้ความสนใจขยายการดำเนิน ธุรกิจไปยังตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งยังคงเปิดโอกาสและเป็นตลาดที่ใหญ่และใหม่สำหรับธุรกิจ IT
ข่าวเด่น