ดร.คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้อำนวยการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนพฤศจิกายน 2559 “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ดัชนีอยู่ในระดับทรงตัว โดยมีนโยบายภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนหลัก ส่วนด้านการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจส่งผลต่อกระแสเงินทุนโดยรวมของตลาดเกิดใหม่จากการไหลของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ เป็นตัวฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน” โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มกราคม 2560) อยู่ที่ 104.55 อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (Neutral) (ช่วงค่าดัชนีระหว่าง 0 - 200) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.68% จากเดือนที่ผ่านมาที่ 103.84
ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายบุคคลและกลุ่มสถาบันในประเทศปรับตัวลดลงอยู่ในระดับทรงตัว สวนทางกับดัชนีนักลงทุนต่างชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 42.86%
หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ บริการรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ส่วนหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA) เป็นหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด
ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายภาครัฐ ในขณะที่ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปได้ของการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น การคาดการณ์ผลการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ และสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น แต่เป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศที่มีความแข็งแกร่งเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการใช้จ่ายภาครัฐที่สอดคล้องเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็เริ่มแผ่วปลายแล้วก็ตาม รวมไปถึงการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ได้คลายความกังวลและเริ่มปรับตัวรับกับอิทธิพลจากกระแสการไหลของเม็ดเงินต่างชาติได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปี 2560
ข่าวเด่น