ราคาน้ำมันดิบลดลงหลังนักลงทุนพุ่งเป้าสถานการณ์อุปทานน้ำมันล้นตลาด - บมจ.ไทยออยล์
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 11 พ.ย. 2559 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังนักลงทุนกลับมาพุ่งเป้าที่สถานการณ์อุปทานน้ำมันล้นตลาดอีกครั้ง
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนได้กลับมาพุ่งเป้าเกี่ยวกับสถานการณ์อุปทานน้ำมันล้นตลาดอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบได้กลับมาฟื้นตัวจากความตื่นตระหนกหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รวมถึงยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะต้องจับตามองการประชุมหารือกลุ่มโอเปก ณ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 30พฤศจิกายน นี้เพื่อดูท่าทีของกลุ่มโอเปกในข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อไป
(-) นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ยังได้ออกมาเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบจะยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์อุปทานล้นตลาด ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตลงในการประชุมที่กรุงเวียนนานี้ได้ก็ตาม ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนได้มองว่า ราคาน้ำมันดิบจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ในระยะสั้นจากความหวังจากการบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
(+) นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า ข้อตกลงลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น และรัสเซียยินดีที่จะร่วมเจราจาข้อตกลงการลดกำลังการผลิตลง หากมีการจัดประชุมหารือระหว่างผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกและกลุ่มโอเปก หลังการประชุมที่กรุงเวียนนา
(+) Genscape ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพื่อรอการส่ง ณ เมืองคุชชิ่ง โอคลาโฮม่า พบว่าได้ปรับตัวลดลง 663,916บาร์เรลในช่วง 4วันแรกของสัปดาห์นี้ (ณ วันที่ 8พฤศจิกายน 2559)
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากราคา NYMEX RBOB ที่ปรับตัวลดลงและอุปสงค์ที่ไม่แน่นอนในการนำเข้าน้ำมันเบนซินของประเทศอินโดนีเซียในปีหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ล้นตลาดในภูมิภาคโดยเฉพาะอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากตะวันออกกลางและเอเชียเหนือ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนามอยู่
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ42-47เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังกังวลว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 -33.0 ล้านบาร์เรล จากเดือน ต.ค. ที่ประมาณ 33.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA)กล่าวว่าหากกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงได้ จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบส่วนจะยังคงล้นตลาดต่อเนื่องในปี 2017
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังนักลงทุนคลายกังวลกประธาธิปดีของสหรัฐฯ คนใหม่ ที่มีนโยบายในเชิงสุดโต่ง ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เริ่มปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 11 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น