ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ยังคงไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,520 จุด เร็วกว่าที่คาด ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคาร รับเหมาก่อสร้าง และ ICT บวกกับบรรยากาศรอบเอเชียที่เป็นบวก อย่างไรก็ตามเกิดแรงขายทำกำไรช่วงบ่าย กดให้ SET INDEX ลดช่วงบวกเหลือเพียง 4.83 จุด ปิดที่ 1,514.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77,437 ล้านบาท
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 14 มากถึง 2,046 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 7,836 สัญญา แต่กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 2,924 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีขยับขึ้นแรง 9.87bps ปิดที่ 2.268%
DJIA ปิดทำระดับสูงสุดใหม่
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประกาศปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือน เช้าวันที่ 15 พ.ย.
สิ้นสุดการประกาศงบ 3Q59 เช้าวันที่ 16 พ.ย.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 4)
เราประเมินว่า SET INDEX มีโอกาสขยับทดสอบและปิดยืนเหนือ 1,520 จุดได้ แม้ว่าจะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ และต่างชาติยังคงลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องก็ตาม แต่หากพิจารณาสถานะใน SET50 Index Futures ยอดสุทธิ QTD กลับมาเป็น Long สุทธิ 2,155 สัญญา สะท้อน Downside risk จะจำกัดในมุมมองของต่างชาติ
ทั้งนี้เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเนื่อง เพราะมีโอกาสที่ต่างชาติจะกลับมาสะสมตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่อีกครั้ง ก่อนช่วงวันหยุดยาวในช่วงครึ่งหลังของเดือนธ.ค. นโยบายด้านเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Trump จะเป็นประโยชน์จากเอเชีย และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ท้ายสุดจะอ่อนค่าลง เอื้อต่อกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าเอเชียอีกทางหนึ่ง
สำหรับปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เราให้น้ำหนักกับการประกาศผลปรับดัชนี MSCI รอบ 6 เดือนในช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย เราคาดว่า BJC มีโอกาสถูกคัดเลือกเข้าคำนวณใน MSCI Thailand ครั้งนี้
กลยุทธ์การลงทุน “ขายทำกำไรบางส่วนเมื่อ SET INDEX ทะลุ 1,520 จุดขึ้นไป” และกลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเด่น
Strategy of the Day
1. สะสม TMB : ราคาปิด 2.08 บาท ราคาเหมาะสม 2.50 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และคาดว่าจะ Outperform ตลาดได้ในช่วงที่เหลือของปี จากความคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2560 และเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่จะได้อานิสงค์จากการไหลเข้าของเม็ดเงิน LTF ในเดือน ธ.ค.
b) ทิศทางกำไรสุทธิ 4Q59 จะเพิ่มขึ้น qoq จาก Credit Cost ที่ลดลง และประเด็นสำคัญอยู่ที่คุณภาพของสินทรัพย์ที่คาดว่าจะเริ่มส่งสัญญาณบวกจาก NPL ใหม่ที่เริ่มลดลง และส่งผลให้ตลาดมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นธนาคารมากขึ้นจาก NPL ที่จะผ่านจุดสูงสุดในปี 2559
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +23.9% yoy เป็น 1.04 หมื่นล้านบาท และมี Downside Risk จำกัดที่บริเวณ 2.00 บาท เนื่องจากซื้อขายที่ระดับ PBV2560 เพียง 1.0 เท่า เป็นระดับ -2SD
2. เก็งกำไร TPOLY : ราคาปิด 3.70 บาท เป้าหมายทางเทคนิค 4.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้น TPOLY จะมี Sentiment บวก หลัง TPCH รายงานกำไรสุทธิ 3Q59 เติบโต +837% yoy เป็น 50 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q59 จะเติบโตโดดเด่น yoy และ qoq เนื่องจากโรงไฟฟ้าแห่งที่ 4 ที่ทุ่งส่งเริ่มจ่ายไฟแล้วตั้งแต่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา
b) ประเด็นลงทุนในหุ้น TPOLY อยู่ที่มูลค่า NAV จากการถือหุ้น TPCH สัดส่วน 41.2% หากอิงราคาตลาดของ TPCH วานนี้ที่ 18.70 บาท จะเทียบเท่า NAV ต่อหุ้น TPOLY หุ้นละ 5.46 บาท หากให้ Discount 20% จาก NAV จะได้มูลค่าต่อหุ้น TPOLY ราว 4.36 บาท
c) สัญญาณทางเทคนิคจะเป็นบวกหากปรับตัวผ่านบริเวณ 3.80 บาทได้ จะมีโอกาสขึ้นทดสอบบริเวณ 4.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 14 อีก US$13 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$723 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 14
นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 14 หนาแน่นถึง 2,046 ล้านบาท รวม 14 วันทำการต่างชาติขายสุทธิ 18,352 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเป็น 103,056 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิอีกครั้ง 7,836 สัญญา คาดเป็นการเร่งปิดสถานะ Short ที่ถืออยู่และกลับมาถือสถานะ Long อีกครั้ง ดังจะเห็นได้จาก QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมามีสถานะ Long สุทธิ 2,155 สัญญา กดดันให้ S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 7 แคบลงเหลือ 0.59 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.17 จุด
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 2,924 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,695 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 5 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากถึง 9.87bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.24bps ปิดที่ 2.268%
Short-Selling วานนี้
วานนี้เท่ากับ 1,161 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 1,710 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 64 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 78 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน และ ICT
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ขายสุทธิอีก 337 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 342 ล้านบาท NVDR เน้นลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน 807 ล้านบาท กลุ่ม ICT 504 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง 257 ล้านบาท โดยกลับมาสะสมกลุ่มธนาคารเด่นต่อเนื่อง 831 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ 103 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นาย Trump เตรียมเร่งผลักดันด้านสุขภาพและปัญหาผู้อพยด: นาย Donald Trump ได้เข้าพบโฆษกของ White House นาย Paul Ryan เพื่อยืนยันว่าจะมีการเร่งเดินหน้าโครงการ Healthcare และปัญหาผู้อพยพ ส่วนด้านภาษีจะมีการปรับลด ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่นาย Trump ใช้หาเสียง
ยอดขอสวัสดิการว่างงานออกมาดีกว่าคาด: เท่ากับ 2.54 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.63 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.65 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
IEA คาดตลาดน้ำมันในปีหน้าเสี่ยงต่อภาวะอุปทานส่วนเกิน: IEA ให้ความเห็นถึงแนวโน้มตลาดน้ำมันในปี 2560 หากกลุ่มโอเปกไม่ลดกำลังการผลิต ขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นๆ เพิ่มกำลังการผลิต ภายใต้อุปสงค์ที่เติบโตในระดับต่ำ ย่อมทำให้ภาวะอุปทานส่วนเกินยังคงเป็นความเสี่ยงต่อไปอีกหนึ่งปี เดือนต.ค.การผลิตน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น 8.0 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 97.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยกลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันทำระดับสูงสุดใหม่ ตามมาด้วยกลุ่มนอกโอเปก อย่างรัสเซีย, บราซิล, แคนาดา และ คาซัคสถาน ขณะที่อุปสงค์ในปีนี้เติบโตเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน และคาดว่าจะเพิ่มในระดับเดียวกันในปีหน้า
ศาลอิตาลีปฎิเสธการพิจารณาข้อเสนอยกเลิกการทำประชามติ: รัฐบาลอิตาลีกำหนดวันลงประชามติกับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ ซึ่งมีการยื่นให้ศาลพิจารณาถึงการทำประชามติที่มีหลายประเด็นภายในคำถามเพียงข้อเดียว และให้ตอบ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่”
กรีซเตรียมผ่อนคลายการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย: ธนาคารกลางกรีซ ประเมินว่า กรีซเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย (Capital Control) แต่การยกเลิกมาตรการทั้งหมดได้ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการผ่อนคลายระดับหนี้สาธารณะของกรีซ ทั้งนี้กรีซได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขการรับเงินช่วยเหลือรอบที่ 2 ของเจ้าหนี้ รวมถึงกรีซจะได้รับความเชื่อมั่นจากตลาดได้เร็วมากน้อยเพียงใด
จีน
จีนผิดหวังกับอียูต่อข้อเสนอการปฎิรูปการส่งออกของจีน: จีนผิดหวังกับการที่ EU ไม่สามารถหาข้อสรุปสถานะทางเศรษฐกิจของจีน ทำให้รัฐบาลจีนอาจต้องกดดันอียูให้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การ Anti-dumping ต่อไป เพราะอียู และเอกชนของจีนหลายรายต่างจะมีการหารือถึงสถานะทางเศรษฐกิจของจีน (Market Economy Status: MES) ช่วงกลางเดือนธ.ค. ซึ่งจีนมีสิทธิดังกล่าวมาแล้ว 15 ปี หลังเข้าร่วม WTO ขณะที่สหรัฐฯ กล่างอ้างว่า จีนดำเนินการไม่ได้ตามหลักเกณฑ์
รองรมว.คลังจีน เสนอให้ Trump ร่วมมือกับจีน เพื่อเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ: นาย Shi Yaobin รองรมว.คลังของจีน กล่าวถึงการชนะของนาย Trump ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดว่า หากสามารถร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ซึ่งนาย Trump ควรเห็นในภาพนี้
เอเชียแปซิฟิก
นายกฯ ญี่ปุ่นเตรียมพบ Trump สัปดาห์หน้า: นายกฯ ญี่ปุ่น Abe เตรียมเข้าพบว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Trump วันที่ 17 พ.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และความร่วมมือด้านการป้องกัน ก่อนจะเข้าร่วมงานประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation ที่เปรู
ผู้นำอินเดีย – ญี่ปุ่น ตกลงร่วมกันในโครงการพลังงานนิวเคลียร์: นายกฯ อินเดีย Modi ได้หารือกับนายกฯ ญี่ปุ่น Abe เพื่อตกลงเกี่ยวกับโครงการพลังงานนิวเคลียร์ และการเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านความสัมพันธ์ร่วมกัน โดยทางญี่ปุ่นจะเป็นผู้จัดหา Nuclear Reactors, พลังงาน และเทคโนโลยี และพร้อมลงนามในข้อตกลงกับทางอินเดีย หลังเจรจาในโครงการดังกล่าวมากว่า 6 ปี
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: อัตราดอกเบี้ย Overnight เท่ากับ 3.0% เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 11 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น